11/15/2010

สอนหญิง... เค้าละ...เสน่ห์แห่งหญิงขั้นเทพ

    
ฉันได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเรื่องราวนี้จากเจ้าของเนื้อหา เพราะมีเจตนาต้องการแสดงให้เห็นข้อเท็จจริงที่ตรงประเด็น
หลายครั้งที่สาวๆ ที่หน้าที่การงานดี ไม่ใช่หญิงบาร์ ที่มองตัวเองว่า เออ ชั้นสาวออฟฟิชนะ ฉันจบจากมหาวิทยาลัยที่ต้องสอบเข้านะ  และฉันหยิ่งไม่เคยไปนอนกับใครง่ายๆหรอก
ฉะนั้นคนอย่างฉันควรจะอยู่แถวหน้าที่ฝรั่งควรจะมอง..(ไม่ขอพูดถึงหนุ่มไทยค่ะ)
ฉันมีเกียรติ ฉันผิวขาว หน้าฉันสวยสไตล์สาวไทย ที่เดินไปใหนใครก็มอง...
บุคลิกภาพฉันดี..ก็ฉันมีการศึกษานี่นา...
และฉันฉลาด...
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในที่กล่าวมา โปรดอ่านเรื่องของเธอ...มันจะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางรักของคุณแน่ๆ
 ด้วยความปราถนาดีอย่างสุดซึ้งจากผู้เขียน
..........................................................................................................................
 Erotic music

     ลำดวน สาวชาวชัยภูมิ ผิวขาว ผอม ร่างบาง ที่ผ่านสังเวียนรัก มานักต่อนัก ไปใหนไม่กินผู้ชาย ท้องจะอืด

     ลำดวนเป็นสาวบ้านนอก หน้าตาดี ผมยาวสวย เรียนแค่ชั้นประถม เคยแต่งงานตั้งแต่อายุ 16  
กับ ข้าราชการมีสีชั้นผู้น้อย ที่ต้องทุจริต ถึงจะมีเงินพอเชิดหน้าชูตา แต่ชีวิตรักของเธอก็ล่ม เพราะสามีเจ้าชู้ อีกทั้ง ใช้เมียไปล่อนายให้ หัวใจนายกระชุ่มกระชวยเล่นๆ  และสนับสนุนสามีเธอในด้านการงาน

หลายครั้งที่ต้อง ไถลลื่นไปนอนกับนาย เธอเต็มใจในหลายครั้ง แต่บางครั้งเธอก็ไม่เต็มใจ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง  เธอไปงานเลี้ยงกับสามี แต่ต้องแวะไปบ้านเพื่อนนายก่อน เพราะรถนายยางรั่วที่นั่น
และสามีเธอต้องเปลี่ยนยางล้อ ปล่อยให้เธอนั่งรถไปงานเลี้ยงล่วงหน้า พร้อมกับเพื่อนนายที่เป็นเจ้าของบ้าน
และตาคนนี้เป็นถึง ระดับผู้จัดการธนาคารใหญ่ ที่ใครๆ ก็รู้จักในจังหวัดนั้น และต่างก็นับถือกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อนายธนาคาร เข้าไปจอดรถในซอยเล็กๆ ไม่เปลี่ยวมาก แม้จะไม่ดึก เพียงแค่ ทุ่มกว่าๆ  แต่ก็ไม่มีผู้คนเลย

     นายธนาคาร เข้ามาลวนลามเธอ และเธอก็ไม่ชอบคนบู่มบ่ามแบบนี้  แต่นายธนาคารนั้น อยู่ในอารมณ์กระทิงคึก กระโจนเข้าบีบขยำขะยี่หน้าอกเธอ ที่มีเพียงเกาะอกผ้ายืดตัวเดียว และกระโปรงลูกไม้สีดำซับใน ตัวสั้นแค่นั้นเอง

เธอตัวเล็ก รูปร่างบาง แต่เธอก็ไปทำศัลยกรรมหน้าอกมา เสือสิงห์ ที่ใหนไม่มองหน้าอกเธอ ก็ตาบอดแล้วแหละ มันออกจะน่ามอง

     เธอเปิดประตูรถ ก้าวลงไป พร้อมๆ กับนายธนาคาร ที่ก้าวไวกว่า  คว้าตัวเธอ และดันหลังเธอชิดประตูรถ เค้ารวบข้อมือที่บอบบางนั่น แล้วกอดเธอ
เธอขัดขืนแน่นอนที่สุด และนั่นทำให้นายธนาคารกระทิงทึก สบอารมณ์เถื่อนยิ่งขึ้นไปอีก
      เค้าต่อยเธอที่ท้อง ไม่หนักมาก แต่ก็เล่นเอาเธอจุก ตัวงอเลยทีเดียว แล้วเธอก็ไม่มีแรงขัดขืน
เค้าอีกต่อไปและไม่อยากเจ็บตัวอีกด้วย ได้แต่สงเคราะห์มันไป เธอคิดในใจ

       เสร็จภาระกิจ เค้าก็พาเธอไปอยู่ในงานเลี้ยงต่อ  เธอขอตัวเข้าห้องน้ำ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุจากนั้นก็เลี่ยงออกมา ทักทายใครต่อใคร หนุ่มๆ มองเธอเป็นระยะ 
เธอเห็นใครต่อใครแซวนายธนาคารว่า คืนนี้อารมณ์ดีผิดปกติ
 เธอมองเค้าด้วยสายตาเหยียดหยาม รักเกียจเป็นที่สุด เมื่อสามีเธอมาถึง เธอจึงได้กลับบ้าน
เหตุที่เธอเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง เพราะว่า มันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอนั่นเอง 

     วันนั้นเธอบอกกับสามีเธอว่าเกิดอะไรขึ้น และสามีเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร พูดแค่ว่า เดี๋ยวจัดการให้
เนื่องจากสามีรู้อยู่เต็มอกว่า เพื่อนนายคนนี้กำลังจะมีผลประโยชน์ก้อนโตให้นาย มีหรือนายจะกล้าขัดใจเพื่อนในช่วงนี้
     และนั่นทำให้เธอรับไม่ได้  เธอคว้ากระเป๋าตังค์สามีเธอ ที่มีบัตรเครดิตต่างๆ  และขับรถหนีออกจากบ้าน บึ่งมาหาฉันที่บ้านเขาใหญ่ในเวลาดึกของคืนนั้น และนั่นก็ทำให้ฉันได้รู้จักชีวิตเธอมากขึ้นนับจากนั้นมา
      เธอมาอยู่บ้านฉัน สองเดือน  และสองเดือนนี้ มีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น เธอเอารถที่เป็นชื่อสามีเธอ ไปขายให้เต้นท์มือสอง และปลอมลายเซ็นต์  

      ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำได้ง่ายดายขนาดนั้น และเต้นท์รถก็ให้เงินเธอมา สามแสนกว่าบาท
อื้ม มันไม่แปลกอะไรเลย ที่ใครๆ ที่โดนขโมยรถไป แล้วไม่ได้รถกลับคืนมา ก็ขบวนการมันรวดเร็วเช่นนี้เอง
     เหตุการณ์ตอนนั้น ทำให้ฉันเสียวๆ รถตัวเอง จากที่เมื่อก่อนไม่ค่อยห่วงว่ามันจะหาย เพราะเป็นรถ กลางเก่ากลางใหม่ แต่พอรู้ว่า ขบวนการซื้อขายรถ มันทำกันง่ายแบบนี้ ฉันเลยระมัดระวังรถตัวเองมากขึ้น ...ก็ต้องขอบคุณเธอในเรื่องนี้ ที่ทำให้ฉันเห็น ไม่อย่างงั้น ฉันก็ยังคงคิดในแง่บวกว่า การที่รถใครจะหายนั้น เป็นเรื่องของกรรมเวร และคงไม่มีใครอยากรับซื้อของโจร... นั่นแหละ ฉันคิดผิดโดยถนัด

     หลังจากที่เธอได้เงินมา เธอก็เอาเงินไป ช็อปปิ้ง เข้าสปา แต่งตัวสวย กระชากใจหนุ่มๆ แก่ๆ ทั้งหลาย  จนวันหนึ่ง ที่ฉันนอนหลับอยู่ เป็นเวลาสายแล้วแหละ แต่ฉันยังไม่ตื่น เพราะเป็นวันหยุด
ก็มีหนุ่มแปลกหน้า เดินมาเรียกที่รั้วหน้าบ้าน ชั้นโผล่หน้าออกไปถาม ว่ามาหาใคร
เค้าก็ตอบว่ามาหาชั้นนี่แหละ ชื่อ..........(เรียกชื่อจริง)  ใช่มั๊ย  ฉันก็ตอบว่าใช่ 

     เค้าเลยบอกว่า เค้ามาจากสถานีตำรวจ พร้อมทั้งชี้มือ ไปยังรถกระบะจอดอยู่ลานหน้าบ้าน ใต้ต้นมะขามนั่น  ที่มีผู้ชายแต่งตัว คล้ายโจร (จริงๆนะ)  ที่นั่งอยู่กระบะหลังนั่นอีก สี่ห้าคน และสองคนในนั้น ชั้นรู้จักว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เพราะเป็นลูกน้องเพื่อนร่วมรุ่นของชั้นเอง

     มีอะไรเหรอคะ ฉันถามเค้าไป  เค้าบอกว่า คุณ ลำดวน เพื่อนคุณ อยู่ด้วยกันใช่มั๊ย สะดวกขับรถไปสถานีตำรวจมั๊ย  คงไม่เหมาะถ้าจะขึ้นรถไปกับพวกผม
ฉันบอก ฉันไม่สะดวกตอนนี้นะ เพราะยังไม่อาบน้ำ คุณไปก่อนก็แล้วกัน เพราะกว่าจะเสร็จเป็นชั่วโมง
เค้าบอกเค้าต้องรอ ฉันก็บอกโอเคจะรีบก็แล้วกันค่ะ

ฉันเดาเหตุการณ์ออกทันที  ว่าคืออะไร ฉันกับลำดวนรีบล้างหน้า เปลี่ยนซื้อผ้า ขับรถไปสถานีตำรวจ โดยที่ไม่ทำให้ คนในบ้านตกใจใดๆ
     และเห็นสามีเธอมารอรับเธอที่โรงพักนั่นแหละ เค้ามองฉันแปลกๆ  เค้าเดินมาคว้าแขนของลำดวน และบอกฉันว่า อย่าพึ่งไปใหนนะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน  “เกี่ยวไรด้วยวะ”  ชั้นคิดในใจ
หลังจากที่เค้าสองคนคุยกันเสร็จ  สามีลำดวนก็เดินมาบอกว่า เค้าจะรับตัวเธอกลับบ้าน แต่ตอนนี้ เคลียร์เรื่องรถก่อน  เค้าบอกว่า  เค้าไม่น่าปล่อยให้ลำดวนอยู่บ้านฉันนานขนาดนี้เลย  เสียทั้งรถ และบัตรเครดิตถูกกดเงินจนเต็มทุกบัตร... ชั้นบอกเค้าว่า ชั้นไม่รู้หรอกนะ และเงินสักบาทฉันก็ไม่ได้ร่วมใช้ด้วย ลำดวนอยู่นี่ก็กินข้าวบ้านชั้น นอนบ้านชั้น น้ำไฟก็เงินชั้นจ่าย...
ฉันเริ่มโมโห เพราะเค้าพูดเหมือนฉันเป็นต้นเหตุ  ฉันเลยบอกว่า งั้นชั้นกลับบ้านก่อนก็แล้วกัน เคลียร์กันเอาเอง ฉันไม่สนที่จะเคลียร์ภาพพจน์ตัวเองเลย เพราะโกรธ  อันที่จริงฉันโง่ไปหน่อย ควรจะบอกเค้าให้ชัดเจนกว่านี้ ว่าฉันไม่ใช่ผู้นำในการทำผิดของใครเด็ดขาด และฉันก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินที่ขายรถนั่น

     หลังจากนั้นผ่านไป อีก หนึ่งอาทิตย์ ลำดวนโทรมาหาชั้น บอกว่า อยู่บ้านที่ชัยภูมิแล้ว ชั้นก็บอกว่า เออ ดีแล้วแหละ  (ในใจก็คิดว่าเธอต้องจัดการกับสามีเธอและ มายาหญิงของเธอไม่พลาดอยู่แล้ว)
เธอบอกว่า ญาติเธอที่ได้สามีชาวเยอรมันจะมาวันพรุ่งนี้ และอยากให้เธออยู่ต้อนรับ เพราะว่า ญาติเธอ เอารูปเธอไปโชว์ให้เพื่อนสามีดู และเพื่อนสามีที่มาเที่ยวด้วยนั้นอยากเห็นตัวจริง 

ฉันก็อ้อ.. ดีๆ  ก็ไม่รู้จะพูดไรไปมากกว่านั้น
ผ่านไปสองอาทิตย์ ลำดวนโทรมา บอกว่า เธอจะไปเที่ยวเยอรมันนะ ตอนนี้หย่าแล้วกับสามีคนไทย และจะไปอยู่ที่โน่นสักพัก เพราะเบื่อเมืองไทย

แล้วเธอก็หายไป สองเดือน  โทรมาหาชั้น ตอนเที่ยงคืน ก่อนวันขึ้นปีใหม่ บอกว่า โทรมาหวัดดีปีใหม่  อาทิตย์หน้าเธอจะกลับแล้ว
อยู่ไม่ได้ เพราะสามีชาวเยอรมันขี้หึง มองใครก็ไม่ได้ ยิ้มให้ใครก็ไม่ได้ โดนด่า และบ้านที่เยอรมัน หนาว เดินไปใหนก็ไม่ได้ อยู่แต่ในบ้าน เธอเบื่อ  ก็เลยจะกลับมาเยี่ยมลูกเธอที่เมืองไทย
และเธอก็หายไปอีก

อีกหนึ่งเดือนต่อมา เธอก็โทรมา บอกว่า ตอนนี้อยู่ภูเก็ตนะ ยังไม่ได้กลับบ้านเลย มาถึงกรุงเทพก็ไปภูเก็ตเลย  อยากจะเจอฉันหน่อย พรุ่งนี้ทานข้าวกัน แถวที่ทำงานฉันนะ (สีลม)  ไปนั่งจิบเบียร์กัน 
และชั้นก็ได้เจอเธอ พร้อมกับหนุ่มหล่อคนหนึ่ง ชาวเยอรมัน
ชั้นถามว่า ใช่สามีเธอหรือเปล่า  เธอบอก สามีชาวเยอรมันคนนั้นเธอจะไม่กลับไปหาเค้าอีกแล้ว
 เพราะเบื่อ เค้าขี้หึง แต่งตัวสวยก็ไม่ได้ ถูกว่าถูกตำหนิ
และในวันที่เธอมานั่งเครื่อง  เธอก็ได้เจอกับหนุ่มหล่อคนนี้แหละ เค้ามาหางานทำที่เมืองไทยกับเพื่อนเค้า ซึ่งเป็นวิศวะ สร้างโรงงานที่นิคมปลวกแดง ชั้นก็ได้แต่บอกไปว่า แฟนใหม่หล่อมาก

เออ... สาวเซ็กซี่แบบเธอ สามารถกวักมือ เรียกหนุ่มได้จริงๆ นะ  เธอมีอะไรพิเศษเหรอ ก็แค่หญิงสาว ตัวขาวๆ หุ่นบางๆ  ค่อนข้างผอมในสายตาชั้น ผอมแห้งด้วยซ้ำไป  แต่เธอเคยบอกชั้นว่า ฝรั่งเค้าชอบแบบนี้แหละ บางๆ ไม่อ้วน... ก่อนนี้ชั้นไม่เข้าใจความหมายนั้นหรอก ได้แต่เถียงเธอในใจว่า หุ่นเธอน่ะ บางเกินไป ถ้าไม่ไปทำศัลยกรรมหน้าอก คงจะดูไม่ได้เลย

แต่ถ้าพิจารณาแล้ว เธอพูดน้อย ยิ้มเก่ง สายตาเธอมีเสน่ห์ เวลาช้อนตามองใครแล้ว จริตหญิงของเธอ ฆ่าชายหนุ่มได้ทันทีทันใด...
ความที่บุคลิกของเธอพูดไม่เก่ง ยิ้มสยามอย่างเดียว ทำให้เธอดูใสซื่อ ไม่มีเล่ห์กลอะไร แค่สาวชาวนา
จิตใจซื่อ ร่างกายแบบบางนั้น น่าทนุถนอม ยิ้มของเธอหวานกระชากใจชาย และบอกอะไรก็เชื่อไม่เถียง
(ต่อหน้า เธอเคยแนะนำฉัน ว่าอย่าไปเถียงใคร ให้เงียบไว้ก่อน) 

 อะไรก็ตื่นเต้นไปหมด เหมือนว่าเธอไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้กิน ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน  ทำให้ผู้ชายทั้งหลายอยากบริการเธอ อยากเป็นฮีโร่ในสายตาเธอ  และเธอขี้อ้อน สิ่งที่เธอทำให้ชั้นเห็น เวลาเธออ้อน ก็คือ  ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แค่เบียดกายเข้ากระแซะหนุ่มของเธอ เอามือกอดแขนเค้า หรือ ยิ้มให้ที่ตาของเค้า  ประดุจดั่งเค้าคือพระเจ้าของเธอ  แล้วแบบนี้ใครจะไม่หลงกลเธอล่ะ

แต่ภาพเธอในสายตาชั้น มันช่างคนละเรื่องจริงๆ นะ  เธอมีหนุ่มในสต็อกหลายคน และไม่ต้องโกหกอะไรมากมายเพราะเธอไม่ค่อยพูด เวลาจะพูดก็ช้าๆ และยิ้มๆ หัวเราะอารมณ์ดี ภาพพจน์ที่บริสุทธิ์ของเธอ ทำให้เธอซื่อในสายตาของเค้าเหล่านั้น ซื่อเกินกว่าจะไปทำอะไรๆ ที่ร้ายๆ หรือมีเล่ห์เหลี่ยมได้

     นี่แหละมั๊งที่ทำให้ผู้ชายทั้งหลายมาสยบแทบเท้าของเธอน่ะ ไม่แปลกอะไรเลยที่จะมีหลายคน
ส่งเสียเงินทองให้เธออยู่อย่างสุขสบาย อย่าว่าแต่เดือนละ สี่ห้าหมื่นเลย เป็นแสนเค้าก็ส่งมา เพียงแค่เธอเอ่ยปากว่า ต้องการใช้นั่นนี่... เท่านั้นแหละ

     ในขณะที่คนปากแข็ง ปากหนักแบบชั้น...แถมหยิ่งอีกต่างหาก  เลยกลายเป็นคนแข็งกระด้างในสายตาผู้ชาย...
และสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องยอมรับก็คือ  ผู้ชายไม่มีทางหลุ่มหลงคนแข็งกระดาก แม้จะซื่อสัตย์ เพียงใดก็ตาม  หรือแม้แต่จะไม่เคยเอ่ยขอเงินคนสักบาทเดียว เค้าก็ไม่มองว่า หญิงคนนั้นดีเลิศหรอก อย่างมาก็มองว่าดี แต่ไม่เลิศ
 เพราะ หญิงอย่างลำดวน ต่อให้แบมือขอไปอีกร้อยครั้ง ผู้ชายก็เต็มใจให้ และให้อย่างมีความสุข ให้อย่างมีรอยยิ้ม ที่สามารถทำให้เธอเป็นสุขได้
นี่แค่เรื่องบุคลิกภาพภายนอกนะ  ยังไม่ได้กล่าวรวมถึงเรื่องเซ็กซ์ที่เธอเล่าให้ฉันฟังนะว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เอาแค่นี้ก็เป็นบทเรียน บทใหญ่ที่สาวทั้งหลาย ต้องพึงตระหนักไว้ในใจแล้วกระมัง............

ตอนจบ อยู่ที่ด้านขวามือนะจ๊ะ หรือตามลิ้งค์นี้
http://wwwlifeinfrance.blogspot.com/2010/11/blog-post_20.html