7/30/2011

House for rent in khao yai,Pak Chong,Thailand

ขออนุญาติใช้พื้นที่ โฆษณา บ้านเช่า หน่อยนะคะ ... ขอบคุณผู้อ่านจ้า


https://sites.google.com/site/pakchongth/pak-chong

Hose for rent in Thailand

Pak Chong is one place very nice if you find quiet life,natural place

in here we are call Cowboy City, good wine.



3/07/2011

มหาวิหาร เซนต์อองรี(เซนต์แอนดรู ในภาษาอังกฤษ) บอร์โด ฝรั่งเศสค่ะ


จากแผนที่ การเที่ยวบอร์โดซ์ นั้น ต้องมุงตรงเข้าส่วนใจกลางเมือง เพราะชมจุดสำคัญๆ ของบอร์โดซ์

จังหวัดบอร์โดซ์ นั้นเป็นจังหวัดที่ผลิตไวน์มีชื่อเสียงโด่งดังของฝรั่งเศส

ในความทันสมัยของบอร์โดซ์ ก็ยังคงอนุรักษ์ความคลาสสิคของสไตล์ฝรั่งเศสไว้อย่างเหนียวแน่น
ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน หรือการขี่จักรยาน ซึ่งที่นี่ก็ยังคงมีให้เห็นกันเป็นปกติวิสัยนะคะ

วันนี้พาเที่ยว มหาวิหาร เซนต์อองรี ค่ะ (เซนต์แอนดรูว์ ในภาษาอังกฤษนะคะ )  ต่อจาก ตอนสอง ของบล็อกแก๊งค์ก็แล้วกัน


1/31/2011

เสียแฟน...ให้สาวบาร์......ตอนจบ

ชมพูก็กลับมา เมื่ออยู่ครบวีซ่า...
ช่วงเวลานั้น ชีวิตเธอดุจดั่งฝัน
ความสุขที่จับต้องได้ ความอบอุ่นที่ใจถวิลหามาตลอดชีวิต บัดนี้ มันอยู่รอบๆ ตัวของเธอนี่
เธอเคยคิดว่าเธอฝันไป... กับผู้ชายคนหนึ่ง ที่กระโดดเข้ามาดูแล รับผิดชอบเธอและลูก  มอบความรัก ความห่วงใยอย่างแท้จริง
ส่วนเอ็ดเวิร์ดเองก็หลงรักชมพูอย่างที่สุด ไม่ว่าหัวใจส่วนลึกแค่ใหนก็มีแต่เพียงชมพู สาวไทยตัวเล็กคนนั้นอยู่ทุกสัดส่วน ทุกห้องดวงใจ
ความสุขที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเธอในสนามบินสุวรรณภูมิ
และหลังจากนั้นเขาก็เดินตามหาเธอ  เพียงใช้ใจเป็นเนวิเกเตอร์  จากปีที่แล้ว จนถึงปีนี้ ความรักสุกงอม
จนต้องหาวันลั่นระฆังวิวาร์

1/30/2011

เสียแฟน ให้สาวบาร์....ตอน สาม

วันนั้น...ชมพูปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องเข้าโรงพยาบาล... และเมื่อพบ ซีส ในช่องท้อง หมอต้องทำการผ่าตัดออกโดยด่วน
ทำให้เธอต้องพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล
เอ็ดเวิร์ดเองก็จะเป็นจะตาย เป็นห่วงสาวคนรัก ก็คนเคยคุยกันทุกวัน เห็นหน้ากันทุกวัน
 บัดนี้เธอไปนอนโรงพยาบาล ทำให้เอ็ดเวิร์ด ไม่เป็นอันกินอันนอน  ต้องจับตั๋วบินด่วนมาเฝ้าเธอที่โรงพยาบาล

เสียคนรัก...ให้สาวบาร์ ....ตอนสอง

เมื่อชมพูไปถึงโรงแรมพร้อมน้องชาย ที่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ  ชมพูก็ตกใจมาก เพราะเอ็ดเวิร์ด ได้นั่งรอเธออยู่ตรงล็อบบี้นั่นเอง
ในมือถือดอกกุหลาบสีขาว ช่อใหญ่
แล้วเค้าก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเธอมองเห็น... เค้ายิ้มแฉ่ง...ชูดอกไม้ช่อใหญ่และก้มหัวให้เล็กน้อยอย่างสุภาพ
ซึ่งวันนี้เค้าใส่สูท ผูกไท หล่อเต็มยศ และยื่นดอกกุหลาบช่องามนั้น ให้เธอ... และสายตาทุกคู่ ณ บริเวณนั้นต่างก็หันมามองเป็นตาเดียว... พนักงานสาวยิ้มๆ  และสะกิดมองเธอเป็นตาเดียว
ชมพูแทบจะก้าวขาไม่ออก... เกิดมายังไม่เคยมีชายหนุ่มที่ใหน มาทำสวีทเธอด้วยดอกไม้ช่อใหญ่ขนาดนี้
เอ็ดเวิร์ด หันมามองน้องชายชมพู ในเชิงเป็นคำถาม...ทำให้ชมพูได้สติ และรีบแนะนำน้องชายให้รู้จักอย่างเร็ว เพราะกลัวเอ็ดเวิร์ดเข้าใจผิด...
รู้สึกคืนนั้นเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ชมพูรู้สึกมีความสุข

1/29/2011

เสียแฟน ให้สาวบาร์

วันนี้ชมพูตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะลางานเอาไว้ เนื่องจากเธอต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะมีนัดกับเอ็ดเวิร์ด
ชมพูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทั้งคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับ ก็แน่นอนแหละเพราะนี่เป็นเดทครั้งแรกของเธอ
ที่จะต้องไปเจอกันตัวเป็นๆ ที่สนามบิน
ชมพูเอง ผ่านความล้มเหลวของชีวิตคู่มาอย่างยากลำบาก แต่ลูกสาวของเธอทั้งสองนั้นต่างเป็นกำลังที่ดีที่สุดสำหรับเธอ ในการดำเนินชีวิตหลังการหย่าขาดจากอดีตสามีคนไทย ที่ไม่เอาถ่าน แต่ลูกสาวของเธอที่น่ารักและหน้าตาสะสวยนั้น ก็ทำให้ชีวิตของเธอมีสุขตามประสาแม่ๆ ลูกๆ กันเสมอมา

1/27/2011

เซ็กซ์ แบบที่ผู้หญิงต้องการ..และผู้ชายควรรู้!!!

ฉันไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว เหมาะสมแค่ใหนที่จ้องจะคุยแต่เรื่องนี้
เพราะคิดไปอีกทีมันก็ ไม่ต่างจากคนโรคจิต ที่หมกหมุ่นแต่เรื่องอย่างว่า...
แต่...คงไม่มีใครเถียงว่า เรื่องเซ็กซ์ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการในชีวิตคู่
หรือคุณว่าไม่จริง
ขอแยกออกเป็นสองกลุ่มนะคะ
คือ กลุ่มสาวๆที่ต้องการความสุนทรีย์ก่อนการมีเซ็กซ์ และ กลุ่มที่ต้องการความเร่าร้อนในทันทีทันใด
« กลุ่มแรกนี้ ต้องการความสุนทรีย์ ความโรแมนติก

1/23/2011

เมื่อลูกของฉัน...ไม่มีพ่อ (ตอนจบ)

อาจจะเป็นว่า ในหน้าของฉัน ที่แสดงออกนั้น เศร้าลงไปในถนัดใจก็เป็นได้
“อีกนานมั๊ยคะ” ฉันถามเค้า เบาๆ
“สองเดือนนี้แหละ .” เขาหยุดนิดหน่อย
“ผมถึง...กลับมาก่อนกำหนดเพื่อที่จะอยู่กับคุณให้มากขึ้น”
เขาเอาหัวมาชนที่หัวฉัน แล้วดึงไหล่ฉันให้เอนตัวไปผิงตัวเขา...
ถึงตอนนี้ฉันไม่ได้ ขัดขืนแต่อย่างใด... ใจฉันหล่นหายไปที่พื้น

เมื่อลุกของฉัน..ไม่มีพ่อ ตอน 8 (ก่อนจบ)

เขาพาฉันไปทานข้าว ที่พัทยาปาร์ค... ซึ่งฉันไม่เคยไปมาก่อน...ด้วยความบ้านนอกของตัวเอง
ก็ไม่รู้ว่า ไอ้บุฟเฟ่ เนี่ย มันไปตักอะไรมากินก็ได้ (เค้าก็บอกแหละ แต่ไม่แน่ใจ)
ฉันก็ไม่ค่อยกล้าตักของดีๆ มากนัก เพราะไม่มั่นใจว่ามันฟรีจริงๆ หรือเปล่า (บ้านนอกจริงค่ะ พอไม่เคยมันก็ทำให้ไม่มั่นใจ)
แล้วขึ้นไปที่สูง ก็วิวสวยค่ะ แต่ฉันกลัวซะงั้น เพราะเหมือนพื้นมันหมุม ได้ทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยมั่นใจ...
รีบกินเสร็จก็อยากกลับบ้านซะงั้น... เขาก็ไม่ว่าอะไร
แต่ถามว่าทำใมอยากรีบกลับเร็วจัง...
“ฉันกลัว”   ฉันตอบอย่างเชื่องช้า ด้วยเสียงเบามากกกกก  
เขาหัวเราะกร๊ากกกก  คงดูออกว่าฉันประหม่าล่ะมัง
“มาย เบบี๋”  แล้วเขาก็เอื้อมมือมาจับหัวฉัน และบีบเบาๆ (ฝ่ามือเขาใหญ่มาก แค่จับหัวฉันก็เกือบครึ่งหัวไปแล้ว)
นั่นเป็นการสัมผัสตัวฉันครั้งแรก ฉันรู้สึกเขิน ในทันที และอึกอัก อย่างบอกไม่ถูก

เมื่อลูกของฉันไม่มีพ่อ...ตอน 7 (อินเลิฟครั้งใหม่)

ณ เวลานั้น
ใจฉันสั่น..เพราะเขามองฉันยิ้มๆ ตลอดเวลา... รู้สึกเขินๆ สัญชาตญาน ทำให้รู้ว่า ผู้ชายคนนี้กำลังสนใจฉันอยู่
วันนั้น เขาให้คนเอารถโรงงานมาจอด เป็นรถกลางเก่ากลางใหม่ แล้วก็ขับรถของชั้นไปซ่อม
ฉันก็ยอมให้เค้าไปซะดื้อๆ แบบนั้นแหละค่ะ
แล้วเราก็นั่งทานข้าวกันต่อ...อีกหลายชั่วโมง ฟังเพลงไปด้วย
ตอนนี้ ภาษาอังกฤษของฉันเริ่มที่จะตอบเค้าได้บ้างเป็นบางคำ... (นึกถึงแล้วตลกมาก)
คืนนั้นผ่านไป...ด้วยความประทับใจเป็นที่สุด..ฉันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่วันนี้ขอฉันได้เก็บเป็นความประทับใจแบบนี้ไปอย่างเนิ่นนานก็แล้วกัน

1/22/2011

เมื่อลูกของฉัน...ไม่มีพ่อ ตอน 6 (อุบัติเหตุรัก)

เค้าพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ
เพราะเค้าเป็นต่างชาติ  เอาล่ะสิ
เขาสวมหมวก ตัวสูงกว่าฉันเยอะ กางเกงขาสั้นรับรองพร้อมรองเท้าเดินป่า นั้น ทำให้เห็นเล็บท้าวของเค้าที่สะอาด
ฉันเงียบ... เมื่อ รปภ.เดินเข้ามา เงียบเพราะรู้สึกเคลียด เนื่องจากรถฉันไม่มีประกันนั่นเอง
และใครอีกหลายคนเดินเข้ามา เนื่องจากมันเป็นประตูทางออก เมื่อเกิดเหตุ รปภ.จะต้องย้ายทางออกไปอีกทางอย่างฉุกเฉิน เพราะรถเริ่มติด
ผู้ชายคนนั้นขอโทษฉันอยู่นับล้านครั้ง.... และพลเมืองดี ได้มาช่วยแปลให้  
ว่าเขายินดีรับผิดชอบ
ถามว่ารถมีประกันหรือไม่... ฉันบอกไม่มี ซ่อมเองไม่ได้ ฉันตอบพร้อมทั้งอยากจะร้องไห้
เพราะฉันคงไม่มีเงินแน่ๆ....

1/21/2011

เมื่อลูกฉัน....ไม่มีพ่อ... ตอน 5 (หมดรัก...ประกาศศึก)

เมื่อออกรถได้สองอาทิตย์ ฉันก็บอกพี่นัตว่า ฉันจะไป..
ไม่ขออยู่แบบนี้...แน่นอนพี่นัตไม่ยอมอยู่แล้ว...
ในวันที่ฉันขนของออกจากบ้าน และพ่อกับแม่ฉันเมื่อรู้เรื่องราว เค้าก็ เดินทางมาหาฉันทันที
เราจึงออกไปเช่าบ้านอยู่กันใหม่... พ่อแม่ฉันไม่โกรธแต่เสียใจ ที่ฉันผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาได้อย่างไร... และเสียใจ ที่ฉันกับลูกต้องลำบากขนาดนี้
วันนั้นที่ฉันย้ายบ้านวันแรก..พี่นัตเป็นไมเกรน จนต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาล แต่ฉันไม่ไปเยี่ยม ไม่สนใจ... บอกเพื่อนพี่นัตอย่างเดียวว่า... ฉันขอออกมาจากตรงจุดนั้น และออกตลอดไป
ฉันตกนรกมามากแล้ว อย่าให้ฉันต้องบาปไปกว่านี้อีกเลย
หลังจากนั้นฉันก็ไม่ติดต่อใดๆ กับใครข้างฝ่ายพี่นัตทั้งสิ้น ฉันยอมรับว่า ใจฉันแข็งมาก ไม่มีเยื่อใยแม้แต่น้อย
คิดถึงความผิดของตัวเอง... คิดถึงเหตุการณ์ที่โดดเดี่ยวตอนท้องแก่
และ ตอนคลอด
หลังคลอด
มันเจ็บปวด... นั่นล่ะนรก ในใจฉัน
.................................................................................

เมื่อลูกของฉัน....ไม่มีพ่อ ตอน 4 (หลอกเอาเงินก่อนชิ่งหนี)

จนกระทั่ง ฉันเรียนจบในอีก ไม่กี่เดือนถัดมา และสามารถหางานได้ในทันที ฉันก็พาลูกมาอยู่ด้วย และจะเลิกกับพี่นัตในทันที
แต่พี่นัตไม่ยอมในครั้งแรก  ฉันเองก็คิดว่า ถ้าฉันจะไป ฉันควรจะทำมาหากินให้ได้เสียก่อน ฉันจึงเริ่มวางแผน และหาทางหนีทีไล่ในตอนนั้น
นี่ถึงแม้จะทำงานเองแต่รายได้ก็ยังไม่พอ  ฉันจึงอยากมีรถหนึ่งคันเพื่อที่จะ ทำงานเสริมไปด้วย
 เราสองคนจึงได้ออกมาเช่าบ้านด้วยกันใกล้ที่ทำงานของพี่นัต
ในวันหยุดนั้น พี่นัตบอกว่า เมียพี่นัตจะมาเยี่ยมและจะมาค้างด้วย
ฉันก็ปฏิเสธไป และพี่นัตก็รับคำ
ฉันก็นึกว่า เค้าคงจะไม่มาแล้ว
แต่เมื่อพี่นัตเลิกงาน ก็ไปรับเมียที่ท่ารถ และพามาบ้านทั้งเมียและลูก ซะงั้น

เมื่อลูกของฉัน..ไม่มีพ่อ ตอน 3 (คลอดลูก...อนาถา)

     เมื่อฉันเปลี่ยนเตียงไปนอน เตียงขึ้นขาหยั่ง.. พยาบาลชุดเขียว ก็บอกว่า อย่าเบ่งนะ ให้รอหมอก่อน
เค้าปิดปากปิดจมูก คลุมผม มองเห็นแต่ดวงตา และมือที่ใส่ถุงมือยางนั่น  เอื้อมมาจับมือฉันไว้
และหมอก็มา แล้วหมอก็บอกให้เบ่ง ซึ่งคุณหมอจะพูดกับฉันตลอดเวลา หายใจเข้า เอ้า อื้ดดดด
พยาบาลก็จะมาช่วยเบ่ง ที่ข้างเตียง
“เจ็บนิดนึงนะ หมอจะฉีดยา  จะไม่ได้ไม่เจ็บที่แผล” หมอส่งเสียง
ฉันรู้สึกว่า ที่หว่างขา ตรงเชิงกรานนั้น ลูกได้เคลื่อนมาปิด และ ลมเบ่งจะมีมาเป็นระยะ
เมื่อได้จังหวะ หมอก็จะบอกให้เบ่ง
“อ่ะ ลูกมาแล้วนะสาวน้อย ตอนนี้หมอจะช่วย เปิดแผลนะ” ฉันรู้สึกว่า เนื้อบริเวณนั้น ถูกกรีดด้วยมีด ดัง คลื้ดๆ

1/20/2011

เมื่อลูกฉัน...ไม่มีพ่อ ตอน 2 (ฝันสลาย)

ฉันตกใจมาก... ฉันบอกพี่นัต และแน่นอนพี่นัตดีใจมาก นั่นทำให้ฉันสบายใจระดับหนึ่ง แม้จะกังวลเรื่องท้องที่จะโตขึ้นมาอวดชาวบ้านก็เถอะ
พี่นัตบอกว่าให้ไปอยู่กับพี่นัตที่บ้านพักจนกว่าจะคลอด ซึ่งฉันก็เชื่อพี่นัต
ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรเลย จริงๆนะ ความเขลา ความโง่ ความมองโลกเพียงหัวแม่เท้า  ความที่อยู่แต่ในกะลา ทำให้ฉันไม่รู้อะไรเลย
พี่นัตเองไม่เคยส่งเสียฉัน ไม่เคยให้เงิน นอกจากฉันจะเดือดร้อนจริงๆ พี่นัตถึงจะให้ฉันมา พันเดียว หรือ เจ็ดแปดร้อย
ใจฉันคิดแต่เพียงว่า ฉันมีความรัก ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระแก่คนที่ฉันรัก เพราะพี่นัตเองก็ต้องกินต้องใช้
คือตอนนั้น ใจฉันคิดแต่เรื่องดีๆ อยากเสียสละ กับคนที่ฉันรัก  อยากให้เค้ารู้ว่า ฉันรักเขาแค่ใหน และฉันก็อยากแสดงออกว่า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่พี่นัตนอนด้วยแล้วจะต้องจ่ายเงิน เพราะฉันไม่ใช่อีตัว ...

เมื่อลูกของฉัน.....ไม่มีพ่อ (อีโรติก)

ก่อนอื่นฉันต้องขอบคุณพี่ลี เจ้าของบล็อกนี้ที่ให้ใช้พื้นที่ในการระบายเรื่องราวของตัวเอง
ชีวิตฉันกว่าจะได้มาอยู่ฝรั่งเศสนี้ เรียกว่าล้มลุกคลุกคลาน ถลอกปลอกเปิก พอสมควร
ฉันเองเป็นคนจัดว่าหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ด้วยความที่เป็นเด็กจากที่ราบสูงทำให้ฉัน ไม่ค่อยจะทันสมัยเท่าไหร่นัก
ฉันไม่ค่อยรู้จักสังคมเมืองหลวงว่าเค้าเป็นกันยังไง
เมื่อฉันจบ สายพาณิชย์ ฉันก็มาเรียนต่อ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ พร้อมหางานทำไปด้วย
และด้วยความที่ฉันพอจะหน้าตาดีและหุ่นสวยอยู่บ้าง มันก็ไม่ยากนักที่ฉันจะทำงานรับจ้าง รายวัน แบบที่เค้าเรียกกันว่า
“พริตตี้เกิร์ล” นั่นแหละค่ะ
ฉันต้องทำงานเปิดตัวสินค้าแล้วแต่ว่า จะได้งานใหนแต่ค่าแรงก็ได้ วันละห้าร้อยบาท ซึ่งในสมัยนั้นก็ถือว่าเยอะค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีงานทุกวัน ทางสังกัดเรียกมาถึงจะได้งานค่ะ
ชีวิตของฉันก็ปกติดี เรียนและทำงานในวันหยุด อยู่หอพักหญิง ห้องรวมกับเพื่อนๆ อีก สามคน รวมเป็นสี่คนค่ะ

1/13/2011

โดนแบนจาก กูเกิ้ล แอดเซนส์

เมื่อวานนี้ ฉันโดนระงับ บัญชีของ กูเกิ้ล แอดเซนส์
เหตุด้วยทำผิดกฏ กติกา...หลายอย่าง

- เขียนคำ เชิญชวนให้เกิดการคลิก ป้ายโฆษณา
- ร่วมด้วยช่วยกันคลิก ป้ายโฆษณา

อันที่จริง หากเราทำถูกต้องในกฏกติกา มันก็จะไม่ถูกแบนง่ายๆ ค่ะ ฉันมั่นใจแบบนั้นนะ

ซึ่งเมล์จากกูเกิ้ลที่ส่งมาอธิบายถึง สาเหตุที่ต้องระงับการลงโฆษณาในบล้อกของฉัน และรวมถึง บล็อกทุกบล็อกที่ฉัน ได้ลิ้งค์โฆษณาอยู่นั้น  เค้าได้อธิบายว่า

เกิดจากการคลิกโฆษณาที่ไม่เป็นธรรม และเค้าจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงโฆษณากับกูเกิ้ล และปิดบัญชีของฉัน 

1/10/2011

บาปในใจของฉัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น... ฉันเองได้รู้จักกับสาวคนนี้  เห็นชัดเลยว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มาก
โดยเฉพาะเวลาที่เธอยิ้มหรือหัวเราะ ในความเป็นธรรมชาตินั้นสร้างเสน่ห์ให้เธอยิ่งขึ้นไปอีก..ด้วยหน้าตาที่มองผ่านๆ  นั้น ทำให้นึกถึงนักร้องสาว แอม เสาวลักษณ์ ยิ่งเวลาที่เธอยิ้ม..ละม้ายคล้ายกันยิ่งนัก...
เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงและยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง..แต่ว่าเรื่องของเธอนั้น มันช่างเป็นเรื่องที่เกินจะคาดคิด และหากเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับตัวฉันล่ะ ฉันจะทำเช่นไร ฉันจะดำเนินชีวิตอย่างไร...อื้ม...น่าคิดจริงๆ
..............................................................................................................
ฉันมองดูเวลา ตีสามกว่าแล้ว... นี่เป็นอีกหนึ่งคืนที่นอนไม่หลับ... ฉันไม่อาจจะข่มตาให้หลับลงได้
ฉันเป็นแบบนี้มานานหลายเดือนแล้ว ไม่คิดว่าอาการมันจะเรื้อรังขนาดนี้...ใช่สิ...เพราะคิดถึงแต่เรื่องของเค้า  ครุ่นคิดแต่เรื่องของริชาร์ด มันปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้ทุกๆ คืน ...โอ้ววว หัวฉันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ... อาการปวดหัวรุนแรงขึ้นทุกขณะ...
ใจคิดถึง ริชาร์ด... ฉันคิดสะระตะแล้วว่า ฉันต้องหยุดความสัมพันธ์กับเขาเสียที..นี่ฉันปล่อยเวลาให้มันผ่านมาเนิ่นนาน เกินกว่า สองปีแล้ว.. มันนานเกินไป

1/04/2011

เมียฝรั่งหวังโกยเงิน

วันนี้ได้อ่านกระทู้ของบ้านเลดี้ฯ เรื่อง ญ ไทยที่แต่งงานกับฝรั่ง.. ที่ทำตัวโอ้อวด
อันที่จริงกระทู้แบบนี้เห็นมาเยอะมาก... ไม่ว่าจะในพันทิป ,ที่อื่นๆ
หรือเราๆ กันเองที่ต่างก็พูดคุย แลกเปลี่ยนกันและกัน
คุณๆ คงได้เห็นว่ามีหญิงไทยเยอะแยะที่อยากคุยเรื่องราว ได้เงินจากสามีฝรั่ง ได้บ้านได้รถ และมีชีวิตที่ดีขึ้น หรืออะไรก็ตาม หลายคนก็สะอิดสะเอียนที่จะฟัง หลายคนก็เออๆ ออๆ ห่อหมกกันไป
หรืออีกหลายหญิงไทยที่แต่งงานกับฝรั่งต้องทำงาน พึ่งลำแข้งตัวเอง อยู่กันด้วยความรัก
 ถ้าจะส่งเงินให้ทางบ้านก็น้ำพักน้ำแรงตัวเอง... ซึ่งก็เป็นเรื่องยินดีและภาคภูมิใจในตัวเธอเหล่านั้น...
แต่...ที่ผู้เขียนอยากจะมีมุมมองที่ต่างไปนิดก็คือ
แต่ละคนผ่านพื้นฐานชีวิตมาไม่เท่ากัน... สูญเสียมาไม่เท่ากัน และได้รับมาไม่เท่ากัน ... ฉะนั้นมุมมองการคิด การระวังตัว ก็คงจะไม่เหมือนกัน มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดา..

จะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่

หลายท่านคงเคยได้รับเมล์นี้แล้ว... เพราะมันจะเวียนไปเวียนมา...
แต่ครั้งนี้ ที่ได้รับเมล์...รู้สึกว่า มันคงจะดีไม่น้อย หากว่า เราได้เน้นย้ำกันบ่อยๆ

เสียดายที่ไม่รู้ชื่อผู้เขียน เนื่องจากเป็นเมล์ส่งต่อกันมา ได้รับครั้งแรก ก็หลายปีก่อน...

ยังไงขอขอบพระคุณ ผู้เขียน...มา ณ ที่นี้ และขออนุญาติ นำบทความนี้มา วางที่บล็อกเลยนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ ต่อไป...
.........................................................................
กรณีที่ 1 เมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถยางระเบิดในขณะขับรถ มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
1. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง
2. ถอนคันเร่งออก
3. ควบคุมสติให้ดีอย่าตกใจมองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง

สลับกันไปมา และในทำนอง ตรงกันข้ามหากระเบิดด้านขวาอาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้าม

อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นส่วนมากก็คือ หากขณะยางระเ บิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูงมากๆ พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที
ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นการขับรถที่ใช้ความเร็วสูงๆ จึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้
เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น ในขณะขับรถ จึงไม่ควรขับรถเร็ว
( ความเร็วทีถือว่าปลอดภัยใน DEFENSIVE DRIVING คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง)


กรณีที่ 2
เมื่อรถตกน้ำ
ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำ ลำคลองใดๆ ก็ตาม รถจะไม่ตกลงไปใน น้ำแล้วจมทันที เหมือนหิน ตกน้ำ
แต่จะค่อยๆ จมลงทีละน้อยๆ จนกว่าจะถึง พื้นล่างและในนาทีวิกฤตนี้

ควรตั้งสติให้ดี และ ป
ฏิ บัติดังต่อไปนี้

1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดันในรถและนอกรถให้เท่ากัน

มิฉะนั้นท่านจะเปิดประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้
6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบาน ประตูออกให้กว้างสุด แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของรถได้
7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้

ในกรณีนี้หากน้ำลึกมากๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่า มืดไปหมด

ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจจะว่ายไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ กรณีเช่นนี้ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ
หรือลองเป่าปากดูว่าฟองอากาศลอยไปในทิศทางใด ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มีอาการหลงน้ำ
นอกจากนั้นก่อนออกจากรถหากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆ นั้นออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน
ดังนั้นหากท่านปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่านปลอดภัยได้ในยามคับขัน