ก่อนอื่นฉันต้องขอบคุณพี่ลี เจ้าของบล็อกนี้ที่ให้ใช้พื้นที่ในการระบายเรื่องราวของตัวเอง
ชีวิตฉันกว่าจะได้มาอยู่ฝรั่งเศสนี้ เรียกว่าล้มลุกคลุกคลาน ถลอกปลอกเปิก พอสมควร
ฉันเองเป็นคนจัดว่าหน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ด้วยความที่เป็นเด็กจากที่ราบสูงทำให้ฉัน ไม่ค่อยจะทันสมัยเท่าไหร่นัก
ฉันไม่ค่อยรู้จักสังคมเมืองหลวงว่าเค้าเป็นกันยังไง
เมื่อฉันจบ สายพาณิชย์ ฉันก็มาเรียนต่อ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ พร้อมหางานทำไปด้วย
และด้วยความที่ฉันพอจะหน้าตาดีและหุ่นสวยอยู่บ้าง มันก็ไม่ยากนักที่ฉันจะทำงานรับจ้าง รายวัน แบบที่เค้าเรียกกันว่า
“พริตตี้เกิร์ล” นั่นแหละค่ะ
ฉันต้องทำงานเปิดตัวสินค้าแล้วแต่ว่า จะได้งานใหนแต่ค่าแรงก็ได้ วันละห้าร้อยบาท ซึ่งในสมัยนั้นก็ถือว่าเยอะค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีงานทุกวัน ทางสังกัดเรียกมาถึงจะได้งานค่ะ
ชีวิตของฉันก็ปกติดี เรียนและทำงานในวันหยุด อยู่หอพักหญิง ห้องรวมกับเพื่อนๆ อีก สามคน รวมเป็นสี่คนค่ะ
แต่ชีวิตก็ผกผัน...เมื่อวันหนึ่ง ได้เจอเพื่อนเก่า เธอชื่อ นางอึ่ง... เราเคยเรียนประถมมาด้วยกัน ไม่เคยเจอกันตั้งแต่จบประถม เลยได้นั่งคุยกันที่หน้าคณะฯ
วันนั้นนางอึ่งมากับแฟน ซึ่งเป็นรุ่นพี่เรียนอยู่อีกคณะฯหนึ่ง เราสองคนคุยกันแบบดีใจสุดๆ มีเรื่องเล่ามากมาย พร้อมเพื่อนคนโน้นคนนี้ที่ต่างก็ต้องถามถึง
และแฟนนางอึ่งก็ได้นัดเพื่อนเอาไว้ที่หน้าคณะฯ เมื่อถึงเวลา แฟนนางอึ่งจึงขอตัวไปพบเพื่อนและจะกลับมาตรงนี้ให้พวกเรานั่งคุยกันอยู่ที่นี่ก่อน
พอแฟนนางอึ่งกลับมา ก็มาพร้อมเพื่อนอีกสองคน ชื่อ พี่นัต และ พี่หวัง
พี่หวังนี่เป็นคนจังหวัดเดียวกันกับฉันและนางอึ่ง
ส่วนพี่นัต เป็นคนชลบุรี.... ฉันเองรู้สึกถูกชะตากับพี่นัตมาก และพี่นัตเองก็มองฉันอยู่บ่อยๆ จนฉันรู้สึกเขินๆ
หลังจากวันนั้น นางอึ่งก็เป็นแม่สื่อให้ฉันอย่างดี ความสัมพันธุ์ของฉันกับพี่นัตก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฉันเองค่อนข้างจะซื่อ ไม่ค่อยรู้จักอะไรมากมายนัก ส่วนนางอึ่งเองก็พอๆ กับฉัน เพราะเราเป็นเด็กต่างจังหวัดด้วยกันทั้งคู่
เรื่องของฉันนั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจาก กลุ่มเราได้ไปออกค่ายสร้างอาคารโรงเรียนให้เด็กต่างจังหวัด ที่ อ.อมก๋อย
พวกเราไปที่นั่น สองสัปดาห์ ระหว่างที่อยู่ที่นั่น ธรรมชาติ ที่สวยงาม เงียบสงบ แต่กลุ่มนักศึกษาแบบพวกเรา ก็อยู่กันอย่างสนุกสนาน ฉันกับพี่นัต เกิดความใกล้ชิดกัน จนเลยไปถึงความรัก
เมื่อกลับมาจากออกค่าย ฉันและพี่นัตก็มีอะไรกัน ด้วยความเต็มใจของฉันเอง
ฉันยอมรับว่า ฉันรักพี่นัตและ พี่นัตเองก็รักฉัน อีกไม่กี่เดือนพี่นัตจะจบการศึกษาและต้องกลับไปทำงานที่ชลบุรี
และช่วงเวลานี้แหละที่ทำให้หัวใจของฉันเรียกร้องพี่นัต อยากใกล้ชิด
เมื่ออยู่ใกล้ชิดก็เกิดการสัมผัส ดิ่งลึกลงไปถึง ความอยากรู้อยากลอง ที่นอกเหนือจากการโอบกอด สัมผัสร่างกายที่อุ่นๆ นั่น
ในขณะนั้น ฉันเองสองจิตสองใจ ไม่ใช่ว่าอยากจะง่ายกับพี่นัต แต่อารมณ์และสัมผัสนั้น มันใจสั่น เต้นระทึก ร่างกายไร้เรี่ยวแรง
ยิ่งตอนที่พี่นัตกอดจูบ ซอกคอ ลงต่ำลึก ไปพึงคอเสื้อนั่น ใจฉันยิ่งสั่นระทวย เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อธิบายไม่ได้ว่าร่างกายมันเป็นอะไร รู้แต่ว่า ยิ่งพี่นัตพรหมจูบไปทั่วใบหน้า ลำคอ ติ่งหู และหน้าอกนั้น ร่างกายของฉัน ดุจดั่งล่องลอยไปไกลแสนไกล เกินกว่าจะบรรยายได้
ฉันเองได้ขอให้พี่นัตหยุด และดันพี่นัตให้ห่างออกไป แต่ยิ่งดันก็เหมือนพี่นัตยิ่งรัดแน่น กอดแน่น จูบหนักแน่น แบบหายใจติดขัด
สองมือที่ลูบไล้แผ่นหลังนั้น นุ่มลื่น ไล้ไปทั่วแผ่นหลังด้านในของเสื้อ...ฉันไม่รู้ว่า พี่นัตปลดตะขอเสื้อใน ตอนใหน
แต่รู้ตัวอีกที มือพี่นัตก็ประคองเต้า และใบหน้าก็ซุกที่ยอดอกนั่นแล้ว... ฉันหายใจระทวน รวยริน เหมือนว่าจะขาดใจอยู่รอนๆ อารมณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน มันวาบหวิว เหมือนตอนที่ดูหนังเรทอาร์
แต่การสัมผัสจริงแบบนี้มันหวาบหวิวยิ่งกว่าดูหนังเป็นใหนๆ
ใจหนึ่งก็อยากหยุด แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อพี่นัต จูบฉันต่ำลงไป ต่ำลงไปอีก
ใจหนึ่งก็อยากหยุด แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อพี่นัต จูบฉันต่ำลงไป ต่ำลงไปอีก
รู้สึกตัวว่า หัวใจได้หยุดเต้นไปแล้ว เมื่อพี่นัตได้จูบหนักๆ ลงไปตรงนั้น ผ่านกางเกงยีนส์ ความร้อนรุ่ม ฝัน ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้รู้สึกว่าความสุขรำไร ล่องลอยนี้ เหมือนสวรรค์ชั้นเจ็ด อย่างที่คนเค้าพูดถึง
ความอ่อนหวานของพี่นัต และความเร่งเร้าในบางจังหวะ ทำให้ฉันผ่านประสบการณ์ครั้งแรกนั้น อย่างนุ่ม ประทับใจ...............................................................ต่อพรุ่งนี้นะจ๊ะ...................................................
http://wwwlifeinfrance.blogspot.com/2011/01/2.html ตอนสองนะคะ