วันนี้ชมพูตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะลางานเอาไว้ เนื่องจากเธอต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะมีนัดกับเอ็ดเวิร์ด
ชมพูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทั้งคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับ ก็แน่นอนแหละเพราะนี่เป็นเดทครั้งแรกของเธอ
ที่จะต้องไปเจอกันตัวเป็นๆ ที่สนามบิน
ชมพูเอง ผ่านความล้มเหลวของชีวิตคู่มาอย่างยากลำบาก แต่ลูกสาวของเธอทั้งสองนั้นต่างเป็นกำลังที่ดีที่สุดสำหรับเธอ ในการดำเนินชีวิตหลังการหย่าขาดจากอดีตสามีคนไทย ที่ไม่เอาถ่าน แต่ลูกสาวของเธอที่น่ารักและหน้าตาสะสวยนั้น ก็ทำให้ชีวิตของเธอมีสุขตามประสาแม่ๆ ลูกๆ กันเสมอมา
ด้วยความเหงาทำให้ชมพูเองก็อยากจะเริ่มต้นใหม่ๆ แต่ประสบการณ์ที่เลวร้ายทำให้ชมพูไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร
และด้วยสถานะความพร้อมของเธอ หน้าที่ระดับหัวหน้างานในบริษัทดัง ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะทำอะไรเสียหาย
ต่อภาพลักษณ์ตัวเอง รวมไปถึงครอบครัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เธอนับถือ...นี่แหละมั๊งที่เรียกว่า “กรอบแห่งประเพณีไทย”
หากแต่วันนี้... เอ็ดเวิร์ด...หนุ่มจากสแกนดิเนเวีย กลับทำให้ชมพูกระวีกระวาด เลือกชุดนั้น ลองชุดนี้ แล้วมองดูตัวเองในกระจก อย่างกับสมัยที่เธออายุ สิบห้า ก็ไม่ปาน
แต่แล้วก็ไม่มั่นใจสักที ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา... เสื้อผ้าที่กองพะเนินเทินทึก บนที่นอนหนานุ่ม กลับไม่มีชุดใหนถูกใจหล่อนแม้แต่น้อย...ทั้งๆ ที่ชมพูเองเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ
หากแล้วก็เลือก เดรสสีดำเข้ารูป สั้นระดับเข่า คอไม่ลึก แถมออกแนวสุภาพเกินไปด้วยซ้ำ... เธอเกิดความไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ หากจะยิบชุดสุภาพๆ ก็เกรงว่าเอดเวิร์ดจะคิดว่าเธอเป็นน้องโบ
หากจะยิบชุดทันสมัย ก็กลัวว่าสายตาประชาชีจะตัดสินเธอกลางสนามบินนั่น...
ก็เธอไม่เคยเดทกับหนุ่มต่างชาติมาก่อนนี่นา ...
ชมพูแวะรับเพื่อน ที่นัดแนะไว้แล้วเรียบร้อย ขับรถไปด้วยกัน
บ่ายสองกว่าๆ ท่ามกลางอากาศเร่าร้อน เดือน พ.ค.ของเมืองไทยนั้น เมื่อมองออกนอกกระจกของสนามบิน เห็นเปรวแดดเต้นระยิบระยับ ส่งผลให้ใจของชมพูร้อนลุ่มยิ่งกว่าแดดที่แผดเผาอยู่ด้านนอกนั้นก็ไม่ปาน
เพราะอีกไม่กี่นาที เอ็ดเวิดก็จะเดินออกมาแล้ว ใจเธอเต้นแรงสุดๆ
แม้จะคุยกันผ่านกล้อง เห็นหน้าค่าตาเวลาคุย เวลาที่เค้าเดิน ไปมา ระหว่างคุยผ่านกล้อง ตลอดสี่เดือนนี้ ไม่มีวันใหนที่จะไม่ได้คุยกัน
เอ็ดเวิร์ดเป็นหนุ่มนักออกแบบ มีธุรกิจรับออกแบบด้านวิศวะกรรมเป็นของตัวเอง ด้วยวัย 48 ที่ค่อนข้างจะหนุ่มและหล่อเหลา ทำให้ชมพูเองก็ขาดความมั่นใจไปไม่น้อย เมื่อเห็นโปรโฟล์ของคู่เดท...
และวันนั้นก็ได้เจอกัน ... ความตื่นเต้น ค่อยๆ ลดน้อย หายไป ในอีกสองชั่วโมงหลังจากนั้น...
เอ็ดเวิร์ด มีคอนโดฯ ที่หาดจอมเทียน ย่านพัทยา และเค้าก็มาเมืองไทยบ่อยๆ ปีละสอง หรือ สามครั้ง เห็นจะได้
(นี่แหละมั๊ง อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ชมพูวางระยะห่างกับเอ็ดเวิร์ด เพราะหนุ่มหล่อแบบเค้าที่มาเมืองไทยบ่อยๆ เป็นบ้านหลังที่สองแบบนี้นั้นมักจะไม่ธรรมดา)
แล้วเค้าก็เอ่ยปากชวนเธอไปพัทยาด้วยกัน... แต่เธอก็ปฏิเสธเพราะ ส่วนตัวแล้ว ฝรั่งไปพัทยา สำหรับเธอนั้นไม่ค่อยจะรู้สึก ว่าเป็นเรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะชมพูเองกับเอ็ดเวิร์ด ก็คุยกันชัดเจนว่าควรจะเป็นแค่เพื่อน ต่อกันก่อน และให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินอนาคตจะดีกว่า
และวันนั้นชมพูก็กลับบ้านพร้อมเพื่อนสาว ให้เอ็ดเวิร์ด กลับคอนโดฯที่พัทยาคนเดียว
แต่เอ็ดเวิร์ดก็รายงานสถานการณ์กับชมพูตลอดเวลา ว่าทำอะไร ที่ใหน อย่างไร ...ทำให้ชมพูนึกขันอยู่ไม่น้อย ในการกระทำของเอ็ดเวิร์ด...เค้าไปพัทยาได้สามวัน...แต่ในสามวันนี้ เอ็ดเวิร์ดกลับไม่เป็นตัวของตัวเองซะงั้น...
พะวงแต่กับโทรศัพท์ ไม่ว่าจะกินจะนอน เช้า สาย บ่าย เย็น เอ็ดเวิร์ด เป็นต้องกด โทรศัพท์หาชมพูตลอดเวลา
“ชมพูครับ...(เค้าชอบเรียกเธอเป็นภาษาไทยแบบนี้เสมอ) วันนี้เพื่อนผมเดินทางมาจากบ้าน และผมได้ฝากของให้คุณด้วยนะ” เค้าโทรบอกเธอ
“อะไรนะคะ” เธองุนงง ว่าเค้าจะฝากอะไรมา
“เพื่อนผมเค้ามาพักที่โรงแรมนะ คุณช่วยไปรับของที่ผมฝากมาหน่อยได้มั๊ย ตอนหนึ่งทุ่มของวันนี้นะครับ” แล้วเอ็ดเวิร์ดก็วางสายไป
ชมพูเอง ก็สงสัยว่า ทำใมเอ็ดเวิร์ด ทำอะไรไม่ถามเธอก่อน
จะให้เธอไปเจอเพื่อนเค้าและรับของมา โดยไม่รู้สึกอะไรน่ะเหรอ ชมพูไม่กล้าไปหรอก ไม่รู้ว่าเค้าจะมองเธอยังไงด้วยซ้ำ
ตอนหกโมงครึ่ง..ชมพูก็โทรไปบอกเอ็ดเวิร์ดว่า
“ไม่นะคะ ฉันไม่กล้าไปพบเค้าหรอก และไม่รู้ด้วยว่าเป็นของอะไร ฉันไม่เคยต้องการอะไรจากคุณนะคะเอ็ดเวิร์ด”
เธอบอกเค้าไปตรงๆ และตะหงิดในใจเล็กน้อยว่า เค้าน่าจะถามเธอก่อนว่ายังไง ไม่ใช่ตัดสินใจเองแบบนี้
“ไปเถอะครับ... พลีสส”
...........................................................................................