เขาพาฉันไปทานข้าว ที่พัทยาปาร์ค... ซึ่งฉันไม่เคยไปมาก่อน...ด้วยความบ้านนอกของตัวเอง
ก็ไม่รู้ว่า ไอ้บุฟเฟ่ เนี่ย มันไปตักอะไรมากินก็ได้ (เค้าก็บอกแหละ แต่ไม่แน่ใจ)
ฉันก็ไม่ค่อยกล้าตักของดีๆ มากนัก เพราะไม่มั่นใจว่ามันฟรีจริงๆ หรือเปล่า (บ้านนอกจริงค่ะ พอไม่เคยมันก็ทำให้ไม่มั่นใจ)
แล้วขึ้นไปที่สูง ก็วิวสวยค่ะ แต่ฉันกลัวซะงั้น เพราะเหมือนพื้นมันหมุม ได้ทำให้รู้สึกว่าไม่ค่อยมั่นใจ...
รีบกินเสร็จก็อยากกลับบ้านซะงั้น... เขาก็ไม่ว่าอะไร
แต่ถามว่าทำใมอยากรีบกลับเร็วจัง...
“ฉันกลัว” ฉันตอบอย่างเชื่องช้า ด้วยเสียงเบามากกกกก
เขาหัวเราะกร๊ากกกก คงดูออกว่าฉันประหม่าล่ะมัง
“มาย เบบี๋” แล้วเขาก็เอื้อมมือมาจับหัวฉัน และบีบเบาๆ (ฝ่ามือเขาใหญ่มาก แค่จับหัวฉันก็เกือบครึ่งหัวไปแล้ว)
นั่นเป็นการสัมผัสตัวฉันครั้งแรก ฉันรู้สึกเขิน ในทันที และอึกอัก อย่างบอกไม่ถูก
เขาหัวเราะต่อ... แล้วบอกว่า งั้นเราไปฟังเพลงกันต่อดีใหม?
ฉันก็บอกว่า ก็ได้ค่ะ ถ้ามันไม่สูง
เขาก็หัวเราะอีก (คงจะหัวเราะในความบ้านนอกของฉันน่ะแหละ)
และเราก็มาถึง โรงแรมหนึ่ง ซึ่งต้องขับเข้ามาในซอย ...ตอนที่เข้ามามันลึกพอสมควร และเปลี่ยว ไม่ค่อยมีรถเลย... ฉันแอบมองหน้าเขา อยู่หลายครั้ง และนั่งตัวแข็งมาก
เขาก็หันมาบอกว่า ไม่น่ากลัว เป็นแค่โรงแรมติดชายทะเล ตรงนั้นมันมีบาร์ ที่นั่งดื่มได้ด้วย
ฉันก็ตระหนกนิดหน่อย เพราะเค้า บอกว่า มีบาร์
แต่เมื่อไปถึงแล้ว อ้อ มันสวยค่ะ เราเดินผ่านสระว่ายน้ำ ที่สวยมาก ออกแบบไว้สองข้างทางเดินเลยค่ะ
เป็นสระว่ายที่กว้างมาก และติดกับชายหาด ขาวสะอาด มองเห็น โค้งน้ำทะเล ตัวเมืองพัทยา สวยงามค่ะ
แล้วเราก็ไปนั่งบาร์ ที่หน้าบาร์ มีเก้าอี้นวมหุ้มด้วยผ้าฝ้ายสีขาวสะอาด ออกแบบเหมือนสำหรับนอนเล่นก็ได้
ดูแล้ว รู้สึกผ่อนคลายมากๆ ค่ะ
มีคนเล่นดนตรีสองคน เป็นชาวต่างชาติ และบาร์ที่มองเห็นเหล้าหลากหลายตระการตา
พนักงานที่มารับคำสั่ง ออเดอร์ นั้นจะ นั่งลงไป ไม่ยืนค้ำหัวแขก
ฉันรู้สึกว่า ผ่อนคลาย สบายๆ หายใจโล่ง..
แอบมองเขาที่คุยอยู่กับพนักงาน เค้ายิ้มๆ พูดจาอ่อนโยน และสุภาพมาก
พอเขาหันมามองฉัน
ฉันตกใจเล็กน้อย รู้สึกว่า ตัวเองอายที่เค้ารู้ว่าฉันแอบมองอยู่
อันที่จริงฉันเองก็ผ่านการมีลูกมาแล้ว...แต่ผู้ชายคนนี้เค้าเป็นฝรั่ง ทำให้ฉันเขินๆ อย่างบอกไม่ถูก
เขาสั่ง ค็อกเทลมาให้ฉัน (ซึ่งยอมรับตรงๆ ว่าตอนนั้นฉันไม่รู้จัก และนั่งเอ๋อ เมื่อเขาถามฉันว่า ฉันต้องการจะดื่มอะไร... และฉันตอบไม่ได้ ได้แต่อึกอักๆ)
เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ฉันเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่รู้สึกได้เลยว่าเขาเองก็พยายามที่จะทำให้ฉันเข้า ไม่รำคาญหรือหงุดหงิด
ฉันรู้สึกได้ว่า เขาน่าอบอุ่น... ตลอดเดือนกว่ามานี้ เขาเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรหา
หรือ บางครั้ง สั่งอาหารมาส่งให้ที่บ้าน (เป็นอาหารจากทางร้านน่ะค่ะ) ... น่าอายนะคะจะว่าไปแล้ว เค้าคงรู้ว่าชีวิตฉันเป็นอยู่อย่างไร
แต่ ณ ตอนนั้น มันเป็นความใส่ใจดูแลจากเขา..ซึ่งฉันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน...
“ผมคิดถึงคุณมากๆนะ” เขากล่าวออกมา แล้วเขาก็เอามือ มาตบข้างตัว เรียกให้ฉันไปตรงนั้น
ฉันมองงงๆ และทำหน้าประหลาดใจ ว่าทำใมเขาเรียกให้ฉันไปนั่งตรงนั้น...
ฉันก็เฉยๆ ทำหน้าไม่ถูก... อยากไปอยู่ใกล้ๆ เขา..อยากรู้ว่าร่างกายของเค้านั้นอบอุ่นแค่ใหน
แต่ฉันก็กระดากที่จะทำแบบนั้น.... ฉันทำหน้าเหร๋อ หรา
แล้วเค้าก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ฉัน แทน...
“คุณก็คิดถึงผมใช่มั๊ย” เขาถามฉันอีก แต่ฉันไม่ตอบ เพราะปากสั่นและตื่นเต้น ไม่รู้จะพูดอะไร
มือที่ถือแก้วเหล้าสวยๆ นั่น กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา เขาตัวใหญ่ ค่อนข้าง อ้วน แม้จะไม่มาก แต่ก็ท้วม เมื่อมานั่งข้างฉัน รู้สึกเลยว่า ฉันตัวเล็กลงไปถนัดตา
“ผมต้องย้ายกลับไปทำงานที่บ้านแล้วนะ...” เขาพูดเบาๆ
แต่ทำให้ใจฉันหยุดเต้นทันที....และหันมามองเขาตรงๆ
“บริษัทต้องการให้ผมไปทำงานที่ฝรั่งเศส เพราะที่เมืองไทยทุกอย่างลงตัวแล้ว” เขาเศร้าเล็กน้อย