1/21/2011

เมื่อลูกของฉัน....ไม่มีพ่อ ตอน 4 (หลอกเอาเงินก่อนชิ่งหนี)

จนกระทั่ง ฉันเรียนจบในอีก ไม่กี่เดือนถัดมา และสามารถหางานได้ในทันที ฉันก็พาลูกมาอยู่ด้วย และจะเลิกกับพี่นัตในทันที
แต่พี่นัตไม่ยอมในครั้งแรก  ฉันเองก็คิดว่า ถ้าฉันจะไป ฉันควรจะทำมาหากินให้ได้เสียก่อน ฉันจึงเริ่มวางแผน และหาทางหนีทีไล่ในตอนนั้น
นี่ถึงแม้จะทำงานเองแต่รายได้ก็ยังไม่พอ  ฉันจึงอยากมีรถหนึ่งคันเพื่อที่จะ ทำงานเสริมไปด้วย
 เราสองคนจึงได้ออกมาเช่าบ้านด้วยกันใกล้ที่ทำงานของพี่นัต
ในวันหยุดนั้น พี่นัตบอกว่า เมียพี่นัตจะมาเยี่ยมและจะมาค้างด้วย
ฉันก็ปฏิเสธไป และพี่นัตก็รับคำ
ฉันก็นึกว่า เค้าคงจะไม่มาแล้ว
แต่เมื่อพี่นัตเลิกงาน ก็ไปรับเมียที่ท่ารถ และพามาบ้านทั้งเมียและลูก ซะงั้น
เค้ามานอนค้างด้วยในห้องนอนห้องเล็ก
ฉันไม่รู้ว่าฉันยอมรับแบบนั้นได้อย่างไร และ เมียพี่นัตยอมรับแบบนั้นได้อย่างไร
ฉันรู้แต่เพียงว่า เมื่อฉันไปได้ฉันจะไป... และในเดือนนั้น พี่นัตกลับบ้านบ่อย ไม่ใช่แค่วันหยุด แต่พี่นัตกลับระหว่างสัปดาห์ด้วย
ทะเลาะกับฉันเรื่องเงิน เพราะฉันไม่ยอมให้เงินเดือนพี่นัตทั้งหมด เหมือนที่ผ่านมา
และฉันก็ต้องการเงินดาวน์รถ คนใหม่เพื่อไปขายของเปิดท้ายตามตลาดนัด ต่างๆ
นาทีนั้นฉันบอกตัวเองเลยว่า.... ฉันจะต้องไปจากจุดนี้ และฉันจะไม่ยอมไปแบบมือเปล่าอย่างแน่นอน  ประสบการณ์ที่ผ่านมา สอนให้ฉันรู้ว่า ความรัก ความเสียสละ และไม่เคยเป็นภาระกับพี่นัตนั้นทำฉันเจ็บปวดเพียงใด ตอนนั้นในสายตาของฉัน ความรักไม่มีในโลก
มีแต่ความโง่เขลาของตัวเอง ที่คิดว่า เมื่อไม่เป็นภาระกับคนที่รักแล้ว เค้าจะรักเรา มีใจกับเรา มองเห็นคุณค่าของเรา... แต่เปล่า....พี่นัตทำกับฉันแบบตกนรกทั้งเป็น
................................................................
ลูกชายฉันนอนเล่นอยู่หน้าบ้าน และกระดึบไปมาตรงหน้าบ้าน ซึ่งบ้านเป็น ทาวเฮ้าส์ มีพื้นที่ปลูกต้นไม้นิดหน่อยแค่นั้นเอง....
ลูกฉันก็กระดึบๆ ไปเล่นขอบเสื่อ และขุ้ยเขี่ยพื้นดิน ตรงนั้น และแล้ว เค้าก็ถือ บางสิ่งขึ้นมา
ฉันตกใจแทบจะเป็นลม....
มันเป็น ไม้แกะสลัก เป็นรูปตุ๊กตาผู้ชายและผู้หญิง ตัวเล็กๆ สูงแค่ประมาณ สองนิ้วกว่าๆ แค่นั้น
แต่ตุ๊กตาสองตัวนั้น ถูกจับมัดหันหลังใส่กัน และพันด้วยสายสิญจน์ แน่นหนา...
คุณจะเชื่อหรือไม่นั้น ฉันเดาไม่ถูก... แต่สำหรับฉัน ซึ่งไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย
เมื่อมาเห็นกับตา นั่นทำให้ฉันแปลกใจ เพราะไม่รู้ว่า ตุ๊กตาอันนี้มันจะมาอยู่ในบ้านได้อย่างไร
เมื่อคิดได้ก็เดาออกทันทีว่า... อ๋อ ตอนที่เมียพี่นัตมานอนค้างที่บ้านนั่นเอง...
ฉันเข้าใจเขาอย่างมาก ว่าเค้าเจ็บปวดเพียงใด..มันไม่แปลกที่เค้าจะด่า ว่าฉันต่างๆนานา
แต่เหตุการณ์ตรงนั้นทำให้ฉันต้องรอเวลาที่จะไป... ฉันไม่เคยไปด่าว่าเมียพี่นัต
ครอบครัวพี่นัตเมื่อรู้เรื่องว่าฉันมีลูก และเอาลูกไปฝากยายแถวบ้านพี่นัตช่วยเลี้ยง
 เค้าก็พากันโทรมาด่าฉัน
ทำใมฉันจะจำไม่ได้...
“มึงอยากจะมีลูก แต่ทำใมไม่เลี้ยง มึงไข่แล้วมึงก็วิ่งหนี ให้ลูกกูต้องส่งเสียแบบนี้เหรอ”
นั่นเป็นคำพูดของแม่พี่นัต ฉันไม่เคยไปแก้ตัวอยู่แล้ว ว่าเรื่องที่เค้ากล่าวหานั้นไม่จริง
แต่ฉันต้องอดทนมากๆ ตอนแรกที่ไว้ใจพี่สาวพี่นัตทุกอย่าง เล่าทุกอย่าง บัดนี้รู้แล้วว่า เธอคนนั้นทำร้ายฉันแค่ใหน เพราะพ่อของพี่นัต เป็นคนโทรมาคุยด้วยตัวเองว่า
“ปัญหาเป็นของเรา ถ้าเราไม่แก้ก็จะไม่มีใครช่วยเรา ส่วนจะให้เตี่ยรักเมียของลูกคนใหนมากกว่าเค้าก็ทำไม่ได้ เพราะเมียคนแรกของพี่นัต เค้าก็ไม่เคยไปตกแต่ง มีแต่รักกันเอง และท้องแล้วพามากราบไหว้
แต่ฉันไม่เคยไปไหว้ ...แต่เตี่ยก็รู้ว่าเราต้องทนและต้องเจอกับสภาพอะไร...
ดังนั้นเรื่องของเราเอง ต้องคิดให้ดีว่าจะเอาแบบใหน ถ้าจะอยู่ก็ต้องมาหาเตี่ย...
ถ้าไม่อยู่เราต้องจัดการชีวิตให้ดี เพราะตอนนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว...และอย่าเอาเรื่องตัวเองไปคุยให้ใครฟัง มันไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นมาหรอก...เพราะเราไม่รู้ว่าใครคิดอะไรแค่ใหน.”
นั่นเป็นคำสอนของเตี่ยพี่นัต ที่ฉันจำได้ดี จนวันตายก็จะไม่ลืม...
และเป็นคำสอนที่บอกให้ฉันรู้ว่า... ฉันต้องทำอะไร ต่อไปถึงจะเลี้ยงลูกได้คนเดียว
.....................................................................
เมื่อพี่นัตกลับมา ฉันเอาตุ๊กตาตัวนั้น มาให้พี่นัตดู  ซึ่งพี่นัตไม่เชื่อหรอก ก็เหมือนฉันแหละที่ไม่เชื่อ แต่ฉันก็ได้เดินข้ามตุ๊กตาตัวนั้น และแผ่เมตตาจิตแล้วเรียบร้อย...แม้จะไม่เชื่อก็เถอะ
ซึ่งหลังจากนั้นพี่นัตก็เปลี่ยนไป... เป็นคนดีมากขึ้น และอยู่ติดบ้าน...ฉันไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ในเดือนนั้นเอง ฉันบอกให้พี่นัตเอารถของพี่นัตไปเข้าไฟแนนซ์เพราะฉันจะเอาเงินห้าหมื่นมาดาวน์รถใหม่
และจะไปทำมาหากินให้มากขึ้น... ตอนแรกพี่นัตไม่ยอม... แต่ตอนหลังก็ยอม
เอาเงินมาให้ฉันห้าหมื่น... เมื่อออกรถได้สองอาทิตย์ ฉันก็บอกพี่นัตว่า ฉันจะไป..
.....................................................................................................................................