เมื่อออกรถได้สองอาทิตย์ ฉันก็บอกพี่นัตว่า ฉันจะไป..
ไม่ขออยู่แบบนี้...แน่นอนพี่นัตไม่ยอมอยู่แล้ว...
ในวันที่ฉันขนของออกจากบ้าน และพ่อกับแม่ฉันเมื่อรู้เรื่องราว เค้าก็ เดินทางมาหาฉันทันที
เราจึงออกไปเช่าบ้านอยู่กันใหม่... พ่อแม่ฉันไม่โกรธแต่เสียใจ ที่ฉันผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาได้อย่างไร... และเสียใจ ที่ฉันกับลูกต้องลำบากขนาดนี้
วันนั้นที่ฉันย้ายบ้านวันแรก..พี่นัตเป็นไมเกรน จนต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาล แต่ฉันไม่ไปเยี่ยม ไม่สนใจ... บอกเพื่อนพี่นัตอย่างเดียวว่า... ฉันขอออกมาจากตรงจุดนั้น และออกตลอดไป
ฉันตกนรกมามากแล้ว อย่าให้ฉันต้องบาปไปกว่านี้อีกเลย
หลังจากนั้นฉันก็ไม่ติดต่อใดๆ กับใครข้างฝ่ายพี่นัตทั้งสิ้น ฉันยอมรับว่า ใจฉันแข็งมาก ไม่มีเยื่อใยแม้แต่น้อย
คิดถึงความผิดของตัวเอง... คิดถึงเหตุการณ์ที่โดดเดี่ยวตอนท้องแก่
และ ตอนคลอด
หลังคลอด
มันเจ็บปวด... นั่นล่ะนรก ในใจฉัน
.................................................................................
เหตุการณ์ผ่านไป สองปี... ระหว่างนั้นพี่นัตก็เฝ้าพยายามที่จะติดต่อกลับมา
มาหาลูก มาเยี่ยมลูก ซึ่งฉันไม่ให้มา ไม่ให้ติดต่อ เพราะใครต่อใครๆ ก็มองว่า นี่เหรอ ผัวเก่าพ่อของลูก และผัวของคนอื่นที่ฉันพยายามจะเอาผัวชาวบ้าน
ฉันของบอกเลยว่า ไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ที่จะแย่งผัวของใคร... แต่วันที่รู้ว่าพี่นัตมีเมีย ก็คือวันที่ฉันท้องแปดเดือนแล้ว...
จนกระทั่งตอนนี้ ลูกฉัน ได้เจ็ดเดือน นั่นก็กินเวลาเนิ่นนานมากแล้ว ที่ฉันต้องถูกด่า ถูกว่า ถูกประนาม ว่าเป็นเมียน้อย
พี่นัตเองก็จน ไม่ใช่ว่าจะเลี้ยงดูฉันและลูก ให้อยุ่สุขสบายเมื่อไหร่...เมื่อออกมาจากจุดนั้นได้
แต่ฉันก็ยังโดนด่า โดนประนามว่า หลอกเอาเงิน หลอกเอารถ หลอกทุกอย่างให้พี่นัตล้มเหลว
ฉันได้เงินมาแค่ห้าหมื่น และรถฉันก็ต้องผ่อนต่อ.. ฉันบอกเลยว่า เงินห้าหมื่นนี้ มันจะมากหรือน้อยก็ตาม ฉันจะไม่ขอคืนพี่นัตตลอดไป... ใครจะว่าฉันเลวก็ตามเถอะ...ความเคียดแค้นมันฝังอยู่ในใจลึกๆ
ฉันทำงาน...ในบริษัท ซึ่งหลายครั้งที่พี่นัตมาปรากฏตัวในที่ทำงาน ในบ้าน ตามงานเลี้ยง
และมาเฝ้าฉัน เพื่อกันไม่ให้คนอื่นๆ ที่หมายปองฉันได้สมหวัง...
เราตามล้างแค้นกันอยู่แบบนี้ หลายปีมาก เพราะเราอยู่ในจังหวัดเดียวกันนั่นเอง
จากความรัก เป็นความเกลียดชัง... เพิ่มพูนขึ้น...
บางครั้งฉันไม่มีเงินติดตัว...และลูกไม่สบาย ต้องพาไปหาหมอ... และเป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยปากขอให้พี่นัตช่วยเหลือ..เพียงแค่ห้าร้อยบาท..
แต่พี่นัตไม่มีให้... และพูดแดกดันฉันมา ว่า เอาไปห้าหมื่นนั้นยังไม่คืนเลย...
ถึงตรงนี้...ฉันกลั้นใจสุดๆ...โกรธตัวเองที่บากหน้าไปขอเงินแค่ห้าร้อยบาทเพื่อจ่ายค่ายาให้ลูกชาย...เค้ายังด่าฉันกลับมา...
ซึ่งนั่นเป็นการเปิดศึก...ระหว่างฉันกับพี่นัต อย่างโจ่งแจ้ง...
........................................................................
วันนั้นฉันมีเพื่อนชาย มากินข้าวที่บ้าน... พี่นัตมาจากใหนไม่รู้ เข้ามา พูดด่าเพื่อนชายของฉัน
ว่าจะมาเอาเมียชาวบ้าน... จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น จนตำรวจมาข้ามทัพ และไปโรงพักทั้งคู่
เพื่อนชายฉันเหลืออด..กับพฤติกรรมของพี่นัต... เพราะเค้าไม่ช่วยเลี้ยงดูลูกแล้ว แต่ยังตามราวีฉันให้อับอาย ไปทั่ว คนทั้งบริษัทต่างก็นินทาฉัน ต่างๆ นาๆ
ฉันต้องอดทน อดกลั้นที่สุด... นอนร้องไห้ ตลอดเวลา...
ว่าทำใมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ พี่นัตนอกจากจะมีเพียงเจตนา ที่จะทำให้อับอายแล้ว ก็ยังมีเจตนาที่จะไม่เลี้ยงและรับผิดชอบลูก ก็แหงแหละ เพราะพี่นัตไม่เคยรับผิดชอบมาแต่ใหนแต่ไรแล้ว
สองปีที่ผ่านมานี้ มันไม่ได้ทำให้ฉัน ชำระล้างตราบาป คราบของเมียน้อยได้เลย ทุกคนที่รู้เรื่องราว ต่างก็ประนามฉัน เสมือนว่า ฉันยังคงอยู่กับพี่นัต ทั้งๆ ที่เลิกไปสองปีแล้ว...
พี่สาวของพี่นัตก็โทรมาถามเรื่องเงินห้าหมื่นอยู่ตลอดเวลา... แม่เค้าก็โทรมาด่า เรื่องที่ทำให้พี่นัตต้องเป็นหนี้เป็นสิน...
สองปีผ่านไป ทุกคนก็รุมด่าฉันอยู่แบบนั้น....
จนกระทั่งวันหนึ่ง.... ฉันไปซื้อของที่ห้างแถวบ้าน
และขาออกกำลังรอคิว ยื่นบัตรจอดรถอยู่นั้น...
ท้ายรถฉันก็โดนชน ดังโครม..... ดีว่าใส่เบรกมือเอาไว้แล้ว...
ฉันตกใจสุดขีด ทุกคนหันมามอง และฉันก็ก้าวลงไปดู.... ก็เห็นรถคันหลัง บี้หน้าเข้ามาในตูดรถชั้น เสียโฉม ไม่มีชิ้นดี... ฉันหันไปมองคนขับด้วยดวงตาไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอน
แล้วเค้าก็ก้าวลงมา ทำมือ สองมือห้ามทัพ อย่างคนขอโทษขอโพย...เค้าพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ
เพราะเค้าเป็นต่างชาติ
...............................................................................................................................