12/25/2010

รักกุ๊กกิ๊ก...เกาะตาฮิติ ตอน 6

หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นแก้วใสไม่ได้เข้าออฟฟิชเลย หมอหนุ่มรู้สึกคิดถึงเธออย่างบอกไม่ถูก
หลายครั้งที่หันไปมอง ห้องทำงานเธอที่ปิดประตูอยู่ เขารู้สึก เหงา อย่างไรไม่รู้ โดยปกติ ห้องนั้นจะเปิดประตูตลอดเวลา เพื่อที่เขาจะเรียกหาเธอ หรือเดินไปยื่นเอกสารให้เธอบันทึกในไฟล์ เขาก็จะเห็นเธอนั่งรอคำสั่งเขาตลอดเวลา
แต่ตอนนี้ไม่มีเธออยู่ เขาต้องไปออกตรวจคนเดียว...
ใช่ ...เขาก็ทำคนเดียวมาก่อน 
ก่อน ที่จะมีแก้วใส... แต่สองปีกว่าผ่านมานี้ ไม่มีวันใหนที่ขาดแก้วใสไป จะมีเธอเคียงข้างเขา และจัดเตรียมอุปกรณ์ ก่อนออกเดินทางออกตรวจนอกสถานที่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นยาของใคร เอกสารให้คนไข้รายใดเซ็นต์ เธอจะจัดการให้เขาเรียบร้อย ก่อนออกเดินทางเสมอ..
เมื่อไม่มีเธอเหมือนเขาขาดอะไรไปในชีวิต... สาวๆ ที่ล้อมหน้าล้อมหลังก็ไม่สามารถทดแทนแก้วใสได้
ในวันที่มีเธอนั้น เขาอบอุ่น เหมือนเขาไม่ต้องห่วงอะไรกับตัวเอง เขารู้สึกว่าเธอจัดการให้ชีวิตเขาสมบูรณ์
ทำให้เขาสนุกและรู้สึกเหมือนมีเธอคอยซัพพอร์ตอยู่ตลอดเวลา
ในวันที่มีเธอ เขาสามารถทำงานตามโปรแกรมที่เธอจะเขียนวางไว้ที่โต๊ะทุกเช้า... มาถึงก็อ่านกระดาษโน๊ตแผ่นน้อยนั้น จากลายมือเธอ ที่เขียนภาษาฝรั่งเศสผิดๆ ถูกๆ  และหลายครั้งทำให้เขายิ้มเสมอ...จากประโยคผิดไวยากรย์นั่นด้วยลายมือเธอ
แต่บัดนี้ ไม่มีแม้กระดาษโน๊ตแผ่นน้อย..ไม่มีลายมือเธอ
หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ออกไปใหน ไม่พบสาวคนใหน เพราะอารมณ์ไม่ปกติ คิดถึงแก้วใส ไปหาเธอที่บ้านก็ไม่พบ ...เฮ้อ..
ใช่เขาต้องการเธอ...มันเศร้าเกินไปที่จะขาดเธอไป... เขายอมที่จะเลิกติดต่อกับสาวๆ ทุกคน หากว่าวันนี้ยังมีแก้วใสอยู่...ใช่ เขาได้มองข้ามเธอตลอดเวลา หลายครั้งที่เขาทิ้งเธอระหว่างทางให้ขับรถกลับบ้านเอง หากวันนั้นเขาเจอหวานใจคนใดคนหนึ่งระหว่างทาง
เขาทำร้ายเธอเกินไป...ใช่...มันแย่เกินไป...
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ปิดคลีนิค จากที่นั่งแช่อยู่เกินเวลาแบบนี้มาร่วมชั่วโมง... เขาอยากพบเธอ
และอยากบอกเธอว่า เขาขาดเธอไม่ได้ เขาต้องการเธอที่สุด
ใจระลิ่ว...พร้อมเคลื่อนรถคู่ใจ ออกทะยานสู่ถนนเส้นนั้นด้วยใจมีความหวังเต็มเปี่ยม..
...............................................................................................................
แก้วใสกลับจากกายภาพแล้ว... เธอลงไปเดินทอดน่องที่ทะเลหลังบ้าน มองเห็นเกาะโบราโบร่า อยู่ริบๆ
น้ำใสนั่น มองเห็นปลาหลากสีมากมาย เธอก้าวขึ้นไปยืนบนก้อนหินที่โผล่พ้นเหนือน้ำนั่น และมองลงไปในน้ำ ที่มองเห็นเป็นหน้าผา..เห็นปลามากมาย น้อยใหญ่ว่ายเป็นสาย ยาวเหมือนรถไฟ
ทะเลตาฮิติ 2009
ใช่..เกาะที่นี่เป็นภูเขาไฟมาก่อน บัดนี้มันได้มอดดับไปหลายร้อยปีแล้ว...และที่เธอยืนอยู่นี้มันก็เป็นยอดของภูเขา... ดังนั้นเกาะที่ตาฮิติ เกือบทุกเกาะจะมีพื้นที่ที่เป็นหาดอยู่น้อยนิด ไม่เหมือนทะเลเมืองไทย และที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็น ยอดเขาและลดต่ำเป็นเหวไปเลย... แต่น้ำทะเลที่ใสและ เขียวมรกตนั่น มันช่างสวยงาม..
ปะการังก็งดงาม หลากสีสรรค์ นั่นเป็นเหตุผลที่ใครๆ หลายคนต่างใฝ่ฝันอยากจะมาเห็นที่นี่
เสียงรถยนตร์มาจอด.. แก้วใสหันหลังไปมอง เห็นหมอหนุ่มเปิดประตูรถก้าวลงมา...ใจเธอเต้นระทึก เพียงแค่เห็นเขาในระยะไกล... เขาช่างมีอิทธิพลกับใจเธอได้มากมายขนาดนี้
“สเปียร์ผมมารับแก้วใสไป ทานกลางวัน คุณจะไปด้วยมั๊ย”  แก้วใสได้ยินเสียงเขา เมื่อเธอเดินกลับมาทางหลังบ้าน
แล้วเขากับเธอก็ออกมาด้วยกัน เมื่อหมอเอ่ยว่า เขาคิดถึงเธอ จึงมาหา อยากให้เธอมีเวลาคุยกับเขาหน่อย เพราะเขามีเรื่องอยากจะคุยด้วย... ใช่นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ใจเธอหวิวๆ มองเห็นหน้าเขาที่ไม่สู้จะสดชื่นนั่น .... ใจเธอก็ละลายยังกะขี้ผึ้งโดนไฟเผา
....................................................................................................
อีวานร์กดโทรศัพท์หาแก้วใสอยู่สองรอบ เธอก็ไม่รับสาย แถมไม่โทรกลับอีกด้วย... ทำใมล่ะ นี่น่าจะเป็นเวลาเลิกงานของเธอแล้ว...
ใจเขาอยากจะขับรถไปหาเธอที่บ้าน รู้สึกคิดถึงเธอมากกว่าทุกวัน.. หลายครั้งที่เขา คิดถึงเธอแต่ไม่กล้าไปพบเธอ ได้แต่ขับรถผ่านหน้าบ้านเธอไป แล้วขับรถกลับ ... เขาไม่เคยทำอะไรงี่เง่าแบบนี้มาก่อน...แก้วใสทำให้เขากลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองไป...เฮ้อ
วันนี้เขามีนัดกับแฟนสาวที่ร้านอาหาร... น้อยครั้งมากที่แฟนสาวของเขาจะมีเวลาส่วนตัวกับเขาแบบนี้
ส่วนมากแฟนสาวไฮโซของเขามักจะมีเขาเอาไว้ประดับในวงปาร์ตี้ของเธอ... เหมือนเขาเป็นเพียงเครื่องประดับชิ้นหนึ่งของเธอก็ไม่ปาน
แต่วันนี้เขาจะไปทานข้าวกันสองคน ซึ่งอีวานร์รอเวลาแบบนี้มาตลอด หากแต่หมอฟอร์ทก็ต้องการเวลากับกลุ่มเธอตลอดเช่นกัน... เขาเคยคุยกับเธอเรื่องนี้ ว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัวดั่งคู่รักคนอื่นๆ บ้าง..แต่เธอก็ให้เหตุผลว่า แค่สองคนมันเหงาเกินไป...และนั่นทำให้อีวานร์กับหมอฟอร์ท ต้องผิดใจกันตลอดเวลา
เขาไปพบเธอที่ร้านอาหาร...
เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามา ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ติดหน้าต่างนั่น
แก้วใสกับเจ้านายของเธอ!!!!!!!!!
ใจเขาละลายยวบลงไป...
จากที่ได้ใกล้ชิดกับแก้วใส ทำให้เขาผูกพันธ์คิดถึงเธอ... และรับรู้เล็กๆ น้อยๆจากความรู้สึก ว่า เธอแคร์ผู้ชายคนนั้นมากเพียงใด... แต่เขาก็ไม่แน่ใจซะทีเดียว จนบัดนี้
และตอนนี้  สายตาของเธอที่มองหนุ่มตรงข้ามนั่น แม้เขาจะเห็นเพียงด้านข้าง แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า
สายตาแบบนั้นที่มองใครสักคน มันมีความหมายเพียงใด...ชายหนุ่มยื่นมือไปกุมมือเธอที่วางไว้กับโต๊ะ
นั่นทำให้อีวานร์อยากจะ หันหลังกลับทันทีทันใด...
ใครบางคนเดินมาคว้าแขนเขา.. ฟอร์ท... เธอยิ้มหวาน และใส่เสื้อเปิดไหล่สีดำตัวใหม่  สวยมาก
“ชุดใหม่ สวยใช่มั๊ยคะ” เธออวด
“สวยมากครับ” เขายิ้มและเอื้อมมือไปจับมือคนรัก และก้าวตามเธอไป...ใช่สิ วันนี้พิเศษระหว่างเขากับคนรัก ทำใมเขาจะต้องไปคิดถึงคนอื่น ที่ไม่ใช่คนรักด้วย... เขาพยายามสลัดภาพสองคนที่นั่งริมหน้าต่างนั่นออกไปจากหัว
“ทุกคน..นี่ มาย กาย... “ หมอฟอร์ท แนะนำ กับเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่ง เมื่อเขาเดินไปถึง
อีวานร์ผิดหวังและหงุดหงิดที่รู้ว่า แฟนสาวของเขานัดกับเพื่อนชายหญิงอีกหลายคน "ตามเคย "ไม่ได้มีเพียงเขาและเธออย่างที่อีวานร์คิด... และวาดฝันไว้ก่อนมา...
ความผิดหวังและความโกรธทำให้เขาไม่มีความสุขมากนัก... เขานั่งได้ไม่ถึง ครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับก่อน..ทำให้แฟนสาวแปลกใจมาก
เพราะดูเขาหงุดหงิด หม่นหมอง .... เธอเดินตามมาส่งเขาที่รถ
และตำหนิเขาตรงๆ ว่า ทำใมทำหน้าไม่มีมารยาทกับเพื่อนๆ ของเธอ...
“ผมคิดว่าเราสองคนจะมีเวลาด้วยกัน แค่เราสองคน” เขาเน้น... “ผมผิดหวัง และรู้สึกเสียเวลาที่ต้องรอคอยอะไรแบบนั้น” 
เขาทิ้งเธอไปด้วยคำพูดตรงนั้น หงุดหงิด โกรธ ใจสั่น หึงหวง... หลายหลายอารมณ์
หนึ่งหญิงที่หลอกล่อให้เขาคิดว่า เขาผิดนักหนาที่ไปทำให้เธอร้องไห้ แต่เมื่อย้อนเวลาไปแล้ว วันนั้นเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นทิ้งเธอไปกับผู้หญิงอื่นมากกว่า และนั่นทำให้เธอเสียใจจนร้องไห้
เขาหลงรู้สึกผิดในใจตลอดเวลา ที่คิดว่า เพราะเขาไปด่าว่าเธอ...
และเวลาที่ผ่านมาที่เขาใกล้ชิดเธอนั้น ... มันล่วงเลยไปถึงความรู้สึกข้างใน.. แล้วเธอก็กลับไปสมหวังกับคนที่เธอรัก ... ไม่นะ... เขาเคียดแค้น... โกรธเธอ.. เกลียดเธอที่ทำให้เขาเสียใจขนาดนี้....

อีกหนึ่งหญิงที่คิดเพียงแค่ว่าเขาเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งของเธอ....

.................................แมรี่คริสต์มาส สำหรับทุกท่านนะคะ...ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันค่ะ......
http://wwwlifeinfrance.blogspot.com/2010/12/7.html  ตอน เจ็ดค่ะ