12/29/2010

จากใจ ชายแปลงเพศ คนหนึ่ง ตอน 2

ฉันลืมเล่าไปว่า ฉันเป็นนักวิ่งประจำโรคเรียนสมัยประถม.. แต่พอจบประถมแล้ว ฉันก็ไปเรียนต่อ แค่ ม.หนึ่ง เท่านั้น ฉันก็หนีออกจากโรงเรียน และไปทำงานร้านอาหารกับเพื่อนๆ ที่พัทยา ... ตอนนั้นที่ไปน่ะ สนุกมาก จนกระทั่งพี่สาวของฉันมาลากตัวกลับบ้านเพื่อให้ไปเรียนต่อนั่นแหละ ฉันจึงได้เห็นโศกนาฏกรรมที่กระเทยรุ่นเด็กๆ ต่างร้องห่มร้องไห้กันใหญ่ เพราะต้องเกิดการจากลา...
ตอนนั้นฉันไม่อยากกลับไปเรียนต่ออีกแล้ว ก็เลยขอพี่สาว เลือกที่จะเรียนการศึกษาภาคพิเศษจนถึง ม.ปลาย  และไปสอบเข้า มหาวิทยาลัย ราชภัฏ มหาสารคาม  เอกพละ พอจบมาฉันก็เป็นครูสอนเต้นแอร์โรบิค...
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ ถนนสายกระเทย อย่างแท้จริง....
วงการแรกที่ฉันเข้าไปทำงานเลย คือ บาร์เกย์.... และฉันก็เป็นเกย์ควีน
ฉันมาทำงาน เดือนแรกผ่านไปด้วยความสนุกสนาน..ได้เงินมั่งกินมั่งเที่ยวมั่ง ก็สนุกๆไปตามเพื่อน...และตกเย็นฉันก็ไปสอนเต้นแอร์โรบิคที่ ห้างหนึ่งในพัทยา ตอนเย็น และกลับมาทำงานที่บาร์ช่วงสามทุ่ม จนกระทั่งบาร์ปิด (ก็เช้าทุกวันน่ะแหละ)
ผ่านเดือนที่สอง มาเพียง อาทิตย์เดียว..วันนั้นฉันขึ้นโชว์ เพราะไม่มีแขกมาให้ดักจับเท่าไหร่... และฉันก็ไม่ได้สนใจใคร นอกจากทำหน้าที่ของฉันและมองดูตัวเองในกระจกไป...
รู้สึกว่า ใครกำลังจ้องมองฉันอยู่จากมุมมืด และมองนานแค่ใหนแล้วก็ไม่รู้... ฉันพยายามจ้องมอง ก็เห็นเขาคนนั้น..ผู้ชายอายุ สี่สิบเห็นจะได้ ฝรั่งผิวขาวรูปหล่อ เขานั่งพร้อมกับเด็กในร้านขนาบข้างอีกสองคน เค้าเรียกฉันให้ไปเอาดริ๊งค์ ด้วยสายตาหวานพริ้ม ฉันยอมรับว่าชอบเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นสายตาคู่นั้น
แล้วเราก็นั่งคุยกันจนบาร์ปิด เขาก็ชวนฉันกลับบ้าน... เขาไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่เขาอาศัยอยู่ที่พัทยามาหลายปีแล้ว   บ้านเขาหลังไม่ใหญ่แต่ก็เป็นบ้านเดี่ยวในเนื้อที่ 70 ตรว. ในหมู่บ้านจัดสรรค์แห่งหนึ่ง ที่จอมเทียน
โรเบิร์ต อยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่และเลิกทำงานบาร์ซะ อยากให้กินเที่ยวกับเขาและอยู่เป็นเพื่อนเขา เนื่องจาก ขาของเขาเคยได้รับอุบัติเหตุ และดามเหล็กไว้ ทำให้เขาเดินไม่ปกติ แต่เขายินดีให้ฉันไปสอนเต้นได้เหมือนเดิม
และเราก็มาอยู่ด้วยกัน...ดั่งเช่นคู่รักคนอื่นๆ  โรเบิร์ตพูดน้อย ยิ้มเก่งใจดี แต่ประหยัด เขาให้เงินฉันใช้และเก็บในธนาคารอีกก้อนหนึ่ง บอกว่า เป็นของขวัญในวันเกิด... และเอาไว้ใช้ยอมฉุกเฉิน 
ในปีแรกที่อยู่ด้วยกัน เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น น้องสาวฉันมาเยี่ยมเราที่บ้านประจำเพราะเธออยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ติดๆ กันนี่เอง หลังจากนั้นได้ไม่นาน โรเบิร์ตก็ชอบออกไปนั่งดื่ม ช่วงที่ฉันสอนเต้น.... หลายครั้งเค้าไปรับฉันจากสอนเต้นเสร็จก็ไปนั่งดื่มต่อ
แต่วันนั้น เขาไม่ไปรับ ... ฉันกลับมาเอง ไม่เห็นโรเบิร์ตอยู่บ้าน... ฉันคิดว่าเขาคงดื่มที่ใหนสักแห่งจนเพลิน  ฉันนั่งรอจนตีสอง โรเบิร์ตก็กลับมาพร้อม เด็กหนุ่มจากบาร์เกย์ที่ใหนสักแห่งอีกสองคน
มาถึงก็เข้าห้อง และโรเบิร์ตบอกฉันว่า อยากจะมาคุยกันในนี้หรือเปล่า  แต่ฉันเลือกที่จะนั่งดูทีวี
ตอนนั้นใจฉันสั่นระทึก..เพราะเราสองคนอยู่ด้วยกันด้วยความรักมาตลอด ไม่เคยมีบุคคลอื่น ย่างกรายเข้ามาแบบคืนนี้
เสียงปาร์ตี้ส่วนตัวในห้องนั้น ต่างสนุกสนาน จนถึงเช้า... และเด็กสองคนนั้นกลับไปแล้ว ฉันก็เข้าไปดูโรเบิร์ต...เห็นเขาเมายา อยู่ รู้สึกตกใจ เพราะโรเบิร์ตไม่เคยอับยามาก่อน ฉันเองผ่านเรื่องพวกนี้มานักแล้วสมัยที่ทำงานบาร์เกย์
จากวันนั้นผ่านไป โรเบิร์ตก็ เล่นยา บ่อยๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคน... ฉันสูญเสียโรเบิร์ตคนที่ฉันรัก และรักฉันไปแล้ว เพราะโรเบิร์ต เล่นยากับ กลุ่มเด็กหนุ่มที่มาจากบาร์เกย์ แทบทุกคืน...
จนวันหนึ่ง เขาก็พาเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้าน... เด็กหนุ่มคนนั้นไม่เคยเคารพฉันเลย มองฉันเป็นเพียงของเก่าค้างปี ซึ่งหลายครั้งมีปัญหา ปากเสียงกัน โรเบิร์ตก็มักจะไม่ตัดสิน แต่หนีไปที่อื่นปล่อยเราเลิกรากันไปเอง 
ฉันคิดว่าโรเบิร์ตหมดรักฉันแล้ว..ก็เลยขอแยกทางไป โรเบิร์ตให้เงินฉันมาก้อนหนึ่ง ให้ฉันได้ใช้จ่ายในระยะแรกที่ต้องหางานทำ... ฉันยอมรับว่าเสียใจมาก นอนร้องไห้ที่บ้านเพื่อนอยู่เป็นเดือนๆ เคยแวะไปหาโรเบิร์ตที่บ้านแต่ก็เห็นเขา ปาร์ตี้ยาที่บ้านทุกครั้ง...และเขาก็เมายาตลอด ไม่ว่าจะเวลาใหน..
ฉันจึงตัดสินใจ เดินจากไปจริงจัง... จนไปทำงานโชว์การแสดงสาวประเภทสอง กับเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งเราเคยทำงานที่บาร์เกย์มาด้วยกัน แต่ตอนนี้เพื่อนฉันได้ผ่าตัดแปลงเพศ เป็นคุณดอกไปแล้วเรียบร้อย จากหน้าตาเกย์ขาวๆ ตอนนี้เป็นสาวอรชรเรียบร้อยแล้ว 
ที่โชว์นี้ใครๆ ก็รู้จัก... แต่ขอ ละไว้ ณ ที่นี้ก็แล้วกัน
กระเทยทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ต่างต้องขึ้นตรงกับเจ้ใหญ่ และนอกจากนั้นก็อยู่กันเป็นก๊กเป็นเหล่ามีหลายก๊ก ฉันเองอยู่คนละก๊กกับเพื่อน อยากจะบอกว่า การทำงานที่นี่ หน้าฉากที่สวยงามนั้น หลังฉาก มันนรกดีๆ นี่เอง
%%%%%%%%%%%%%%%% Tomorrow ja%%%%%%%%%%%%%%%%%

http://wwwlifeinfrance.blogspot.com/2010/12/blog-post_171.html  ตอน สาม ค่ะ